เตือนพายุถล่มทั่วไทย
ลมกระโชกแรง/ลูกเห็บ
นายกฯห่วงประชาชน
สั่งทุกหน่วยพร้อมช่วย
นายกฯห่วงประชาชนเดือดร้อนพายุ-น้ำท่วม สั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อม ช่วยเหลือได้ทันท่วงที ด้าน อุตุฯเตือน พายุฝนถล่มทั่วไทยมีฝนตกหนัก ฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง ขณะที่สัตหีบ จ.ชลบุรี พายุพัดเรือประมงจม11ลำ บ้านเรือน-วัด เสียหายยับ จ.เพชรบุรี เรือจม2ลำ ผู้สูญหาย 4 ช่วยได้ 3 จ.ประจวบฯชาวประมงดับ 1
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชนจากสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ส่งผลให้อาจมีภัยอันตรายที่เกิดจากน้ำท่วมและจากพายุได้ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม เพื่อเข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วยความเร่งด่วน และอย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 8-10 พ.ค.กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้ ส่วนช่วงวันที่ 11-13 พ.ค.ประเทศไทย ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วย
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่าภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้นโดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตการเกษตร
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบนขณะที่ภาคเหนือมีอากาศร้อน สำหรับอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนร้อยละ 70 กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนที่ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและคลื่นลมแรงในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนประชาชน จนได้รับความเสียหาย รวมถึงเรือประมงพื้นบ้าน จมไป 11 ลำ
อย่างไรก็ดี นายวันชาติ วรรณพราหมณ์ ปลัดอำเภอสัตหีบ รักษาราชการแทนนายอำเภอสัตหีบ ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย โดยพบว่ากลุ่มประมงพื้นบ้านเขาล้าน ต.แสมสาร อ.สัตหีบ เรือจม 11 ลำ กู้คืนได้ทั้งหมด โดยพบว่าเกิดความเสียหาย 4 ลำ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 20 หลัง ขณะที่วัดช่องแสมสาร ได้รับความเสียหายจากแรงลมทำให้หลังคาพัง
ด้าน อบต.แสมสารได้เข้าตัดต้นไม้และช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านประชาชนในเบื้องต้น พร้อมกันนั้น ทางกาชาด อ.สัตหีบ ได้เยียวยาผู้ที่ประสบภัยอย่างหนัก 7 ราย โดยมอบถุงยังชีพ และเงินสงเคราะห์
ขณะเดียวกัน ที่ จ.เพชรบุรี เกิดพายุพัดจนทำให้เรือล่ม 2 ลำมีผู้สูญหาย 4 ราย ซึ่งทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล) และประมงพื้นบ้าน ระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เร่งออกค้นหาผู้สูญหายในทะเล โดยสามารถช่วยเหลือได้แล้ว 3 ราย คงเหลือเพียง 1 ราย ที่ยังไม่พบ ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายทีมค้นหาไปยัง อ.ชะอำ
น.อ.จีระ มิตรดี รอง ผอ.ศรชล จ.เพชรบุรีฝากเตือนให้ชาวบ้านที่ต้องออกทะเลทำการประมง ให้ติดตามพยากรณ์อากาศ โดยเฉพาะช่วงที่มีพายุคลื่นลมแรง ที่สำคัญต้องสวมใส่เสื้อชูชีพ โดย 2 ใน 4 ผู้ประสบเหตุซึ่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้แล้ว พบว่าต่างไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ
ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ นำกำลังพลร่วมกับเจ้าหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ( ปภ.) และฝ่ายปกครอง ช่วยเหลือชาวบ้านพื้นที่หมู่ 2 เขาตาม่องล่าย และหมู่ 3 บ้านคั่นกะได หลังจากได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มนานหลายชั่วโมง จนบ้านเรือนเสียหายรวม 62 หลัง เรือประมงพื้นบ้านที่หาดหน้าวัดอ่าวน้อย ถูกคลื่นซัดเกยหาย ไม่สามารถนำกลับลงทะเลได้กว่า 10 ลำ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำรถแบคโฮขุดทรายเป็นร่องน้ำ ก่อนลากเรือกลับลงทะเล จากนั้นจึงทยอยกันเข้าปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากพายุพัดถล่ม
ส่วนที่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเรือประมงพื้นบ้านถูกพายุพัดจนพลิกคว่ำ อยู่หลังเกาะนมสาว บ้านหัวตาลแถว ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ได้พบศพนางบุญยิ่ง สุขดิบ อายุ 65 ปี เสียชีวิตอยู่ใต้ท้องเรือประมง เนื่องจากได้ออกไปจับสัตว์น้ำกับสามีคือ นายบุญทรง สุขดิบ แต่ระหว่างนั้นเกิดพายุฝนจนเกิดคลื่นทะเลพัดเรือล่ม โดยนายบุญทรง หนีรอดมาได้ แต่นางบุญยิ่ง ติดอยู่ใต้ท้องเรือจมน้ำทะลเสียชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี