กรมชลประทานเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนงานพัฒนาแหล่งน้ำและบริหารน้ำของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ เพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ได้จำนวน 49.5 ล้านไร่ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 93,655 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ 14.1 ล้านไร่ มีพื้นที่จัดรูปที่ดินจำนวน 14.46 ล้านไร่ และมีครัวเรือนได้รับประโยชน์ถึง 7.431 ล้านครัวเรือนให้ได้ภายในปี 2579
“RID TEAM เราจะก้าวไปด้วยกัน”เป็นหลักคิดและหลักปฏิบัติสำคัญที่ นายประพิศจันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบให้ผู้บริหารกรมชลประทาน และข้าราชการทุกคนนำไปใช้ขับเคลื่อนงานชลประทานเพื่อก้าวไปสู่องค์กรอัจฉริยะ มีความมั่งคงด้านน้ำ รวมทั้งเพิ่มคุณค่าการบริการ ซึ่งแนวคิด “RID TEAM เราจะก้าวไปด้วยกัน” เป็นการพัฒนาต่อยอดจากแนวคิด RID No.1 ที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้
แนวคิด RID TEAM มุ่งขับเคลื่อนกรมชลประทานให้เป็นองค์กรที่ดี 4 ด้าน ได้แก่ นโยบายด้านรัฐ สังคมและสิ่งแวดล้อม เน้นพัฒนาแหล่งน้ำและบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนแม่บทที่สำคัญของประเทศเพื่อเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและสังคม นโยบายด้านผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมุ่งกำหนดมาตรฐานและพัฒนาการให้บริการบนพื้นฐานของกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน นโยบายด้านองค์การ มี 2 นโยบายหลัก คือ มุ่งยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้ได้อย่างเป็นรูปธรรมภายใต้วิสัยทัศน์ที่มีเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวผ่านการวางกลยุทธ์อย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันมุ่งส่งเสริมการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล(Good Governance) สร้างจิตสำนึกให้บุคลากรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ส่วนนโยบายด้านผู้ปฏิบัติงานเน้นดำเนินงานใน 4 ด้าน ได้แก่ มุ่งพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล พัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เป็น “Smart Worker” นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานพัฒนาระบบและวิธีการทำงาน รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของบุคลากร
นอกจากนี้ RID TEAM มุ่งกำหนดเป้าหมายในการขับเคลื่อนงานชลประทานไว้ 3 ประเด็น ประเด็นละ 4 กลยุทธ์ ดังนี้ คือ ยกระดับเป็นองค์กรอัจฉริยะ โดยเน้นจัดการและบูรณาการระบบฐานข้อมูล การปรับปรุงและพัฒนากระบวนการ การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมในการทำงาน รวมทั้งการสรรหาและพัฒนาบุคลากรให้มีสมรรถนะสูงขึ้น เดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านน้ำ โดยเน้นพัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน การบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ การเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการชลประทาน และการพัฒนารูปแบบ ตลอดจนแนวทางที่เหมาะสมในการรับมือภัยพิบัติด้านน้ำ เพิ่มคุณค่าการบริการ โดยเน้นเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้รับบริการและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน การพัฒนาคุณภาพการให้บริการของหน่วยงาน การจัดวางตำแหน่งบุคลากรและจัดทำเส้นทางความก้าวหน้าอย่างเหมาะสม รวมทั้งเสริมสร้างความผาสุกของบุคลากรเพื่อให้มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
สำหรับแผนการบริหารจัดการน้ำในระยะยาวนั้น นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มีนโยบายให้ยึดหลักการบริหารน้ำแบบประณีต โดยเน้นการสร้างขบวนการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน เช่น การบริหารจัดการน้ำในระดับแปลงนา เจ้าหน้าที่ชลประทานต้องเพิ่มความละเอียดพิถีพิถันในการส่งน้ำ ให้พอดีกับการเจริญเติบโตของต้นข้าว วิธีการนี้ช่วยประหยัดน้ำ และประหยัดค่าใช้จ่ายของเกษตรกรไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจากสถิติพบว่าประเทศไทยเผชิญปัญหาน้ำน้อยและน้ำมาก เกิดสลับกันทุก 4-5 ปี ดังนั้นการบริหารจัดการน้ำในอนาคต ต้องมีการจัดทำแผนรองรับ บนพื้นฐานข้อมูลสถิติผนวกกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ประมวลผลและวางแผนบริหารจัดการน้ำทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวรวมทั้งเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำให้มากขึ้น โดยพัฒนาแหล่งเก็บน้ำใหม่ และการปรับปรุงซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ให้เพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำได้มากขึ้น
นอกจากนี้ อธิบดีกรมชลประทานยังมีนโยบายให้มีการเชื่อมโยงอ่างสู่อ่าง มีการสูบกลับ สร้างทำนบดินหรือสิ่งก่อสร้างในลำน้ำเป็นช่วงๆ ขุดขยายแก้มลิงสร้างสมดุลการปล่อยและเก็บน้ำตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง กรมชลประทานเตรียมจัดสรรงบประมาณกว่า 6 หมื่นล้านบาทสำหรับบุคลากร และพัฒนาแหล่งน้ำ ให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 1.3 หมื่นล้าน ล้านลูกบาศก์เมตร ขยายพื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้น 18 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 50 ล้านไร่ทั่วประเทศภายใน ปี 2579
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มีความทุ่มเทที่จะบริหารราชการและปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล โดยยึดมั่นเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรม โปร่งใส มีความรับผิดชอบ ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวในการประพฤติปฏิบัติและดำรงตนไว้ซึ่งเกียรติ ตลอดจนปลูกฝังค่านิยม สร้างจิตสำนึกให้แก่บุคลากรของกรมชลประทานให้ดำรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจงานชลประทานให้บรรลุตามเป้าหมาย เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกรและราษฎรอย่างยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี