11 พ.ค. 64 ด. ต. ศุภชัย กรรมการ อายุ 44 ปี ตำแหน่ง ผบ. หมู่ กก. สส. ภ. จว. กระบี่ อยู่บ้านเลขที่ 296/2 ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เจ้าของ รถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีขาว ป้ายแดงทะเบียน ก 2331 กระบี่ ได้เข้าไปตรวจสภาพความเสียหาย ของรถคันดังกล่าวภายในศูนย์ริการฮอนด้ามะลิวัลย์กระบี่ ม.2 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ หลังนายพิชานัน หรือตั้ม อายุ 29 ปี ได้เช่าไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่กลับนำไปจอดที่อู่แห่งหนึ่งใน พื้นที่ ม.2 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ จึงตามไปเอารถคืนปรากฎว่า รถอยู่ในสภาพห้องเครื่องมีร่องรอยถูกรื้อถอดชิ้นส่วนไปหลายรายการ จึงได้ติดตามตัวนายพิชานัน มาสอบถาม ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าได้รื้อเอาอุปกรณ์ในรถไปจริง จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.เมืองกระบี่ เมื่อวันที่9 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมาตรวจสอบความเสียหายของรถและชิ้นส่วนอะไหล่ที่หายไปเพื่อประเมินควรามเสียหายและแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ลักทรัพย์
เบื้องต้นนายภูวดล ไชยบุญ หัวหน้าช่างประจำศูนย์บริการฯ กล่าวภายหลังการตรวจสภาพรถ ว่า การถอดอะไหล่ในลักษณะดังกล่าวตนไม่เคยเจอมาก่อน เพิ่งพบเป็นเคสแรก จากการตรวจสอบสภาพรถในเบื้องต้น พบว่ามีร่องรอยถอดอุปกรณ์ เช่น ท่อไอเสีย แคทตาไลติก และที่ชัดเจนมีชิ้นส่วนถูกถออดออกไป2 รายการ คือ แผ่นกันความร้อนคอท่อหลังเทอร์โบ1 ชิ้น และแผ่นกันความร้อนเทอร์โบด้านบน 1 ชิ้น ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับตัวเทอร์โบ แต่ยังไม่ทันได้ถอดเทอร์โบ นอกจากนั้นยังพบว่ามีการใส่อะไหล่มาไม่ครบ และใส่น็อตไม่ตรงด้วย รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น คาดว่า ไม่ต่ำกว่า1 หมื่นบาท
ขณะที่ด.ต.ศุภชัย เล่าให้ฟังว่า ตนเปิดบริการให้เช่ารถเป็นอาชีพเสริมในตัวเมืองกระบี่ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ค.64 ที่ผ่านมา นายพิชานัน ฯ ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ติดต่อมาขอเช่ารถ พร้อมระบุเป็นรถฮอนด้าซิตี้ รุ่นใหม่ ป้ายแดง ซึ่งตนก็นมีรถรุ่นดังกล่าวเพิ่งซื้อมาได้ประมาณ 5 เดือน จึงได้ตกลงทำสัญญาเช่าเป็นเวลา1 วัน ในราคา 900 บาท โดยผู้ต้องหานัดคืนรถในเช้าวันที่ 9 พ.ค.64 โดยผู้ต้องหาได้โอนเงินมัดจำมาให้ 2 พันบาท และนัดมารับรถที่ ถนนปานุราช เขตเทศบาลเมืองกระบี่ เมื่อตรวจสอบรถในสภาพเรียบร้อย ผ็ต้องหาก็ขับรถไปทันที ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันตนสังเกตเห็นสัญญาณจีพีเอสที่ติดตัวรถ หยุดนิ่งผิดปกติเป็นเวลา 4 -5ชม.ที่ปั้มน้ำมันปตท.ไสไทย ก่อนเคลื่อนรถไปที่อู่รถยนต์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ม.2 ต.ทับปริก และรถจอดที่อยู่ดังกล่าวตั้งแต่4โมงเย็นจนถึงเช้า
ด.ต.ศุภชัย กล่าวอีกว่า ขณะรถจอดที่อู่ดังกล่าว พบความผิดปกติ คือสัญญาณจีพีเอสหายไปประมาณ3 ชม. ตั้งแต่5โมงเย็นถึง3ทุ่ม เมื่อเห็นผิดสังเกตุ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามผู้ต้องหาว่าจะคืนรถตามกำหนดหรือไม่ผู้ต้องหาก็รับปาก ตนจึงถามต่อว่าทำไมมาจอดที่อู่ ผู้ต้องหาตอบว่ามาดูรถที่ซ่อมไว้ ตนจึงกำชับว่าอย่าถอดอะไหล่รถที่ให้เช่าเขาก็รับปาก ต่อมาเช้าวันที่9 พ.ค.ถึงเวลานัดรับรถคืนแต่ไม่มาตามนัด ตนพยายามโทรติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ประสาน ผช..ผญบ ม.2 ทับบปริก มาร่วมตรวจสอบที่อู่ดังกล่าวปรากฎว่าพบรถจอดอยู่ในสภาพไม่ล๊อคประตู และเปิดไฟในรถทิ้งไว้ ตัดสัญญานภาพกล่องบันทึก ในรถออก มีร่องรอยการถอดอุปกรณ์ โดยมีน๊อตตกอยู่ในกะโปรงรถ และร่องรอยการขันน๊อตหลายจุด พร้อมพบคราบน้ำมัน ของเหลว ภายในห้องเครื่อง จึงได้นำรถ มาตรวจสอบที่ศูนย์บริการดังกล่าว
เชื่อว่าผู้ต้องหาต้องการจะถอดเทอร์โบแต่ถอดไม่ทัน จากการประมวลเหตุการณ์ตนเชื่อว่านายพิชานันไม่ได้ลงมือเพียงคนเดียว อาจจะมีผู้ร่วมขบวนการ2-3คน และทางเจ้าของอู่น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลว่ามีผุ้ร่วมขบวนการหรือไม่อย่างไร และอยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้บริการให้เช่ารถได้ระมัดระวังด้วย เพราะตอนนี้มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบ ด.ต.ศุภชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี