จากกรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ในโรงงานสับปะรดกระป๋อง ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ตรวจพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเป็นคลัสเตอร์ใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด19 จำนวนมากมากกว่า 115 ราย ในกลุ่มลูกจ้างชาวพม่าตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ต่อมามีคำสั่งจังหวัดให้ปิดโรงงาน พร้อมกักตัวคนงานเสี่ยงสูง 402 รายตั้งแต่วันที่ 7-20 พฤษภาคม 2564
12 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ปรับสถานที่กักตัวภายในโรงอาหาร ภายในโรงงานเป็นโรงพยาบาลสนาม หลังจากมีผู้เสี่ยงสูงติดเชื้อเพิ่มเฉลี่ยรายวันวันละ 5 -10 คน ส่วนกรณีที่มีผู้มีความเสี่ยงสูงกว่า 100 คน ซึ่งเป็นพนักงานในโรงงานแต่ไม่ได้กักตัวในโรงงาน และทราบว่าไปกักตัวตัวในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลหัวหิน ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ นั้น มีการย้ายผู้กักตัวในโรงแรมดังกล่าวไปกักตัวที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวลแล้ว สาเหตุที่ไม่ให้ไปกักตัวที่โรงงานสับปะรด เนื่องสถานที่กักตัวในโรงงานมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น
"เบื้องต้นยืนยันว่าไม่เป็นความผิดเพราะไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อ ส่วนจะเป็นปัญหาความผิดในการฝ่าฝืนตามประกาศคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบว่าสาเหตุที่ย้ายสถานที่กักตัวมีสาเหตุอะไร เพราะเมื่อมีคำสั่งแล้วผู้เกี่ยวข้องในการกักตัว ก็ควรปฎิบัติตามและต้องจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐต้องมีการบริหารจัดการสถานที่ภายในโรงงานให้เหมาะสมด้วย ถามว่าเมื่อจัดสถานที่แล้วยังมีปัญหา ผู้ที่เข้าข่ายกักตัวควรจะมีทางเลือกอื่นหรือไม่ เช่น การจัดอาหาร 3 มื้อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบอกว่าดูแลไม่ได้ ต้องขอให้ อบต.หินเหล็กไฟช่วยเหลือ สำหรับสถานที่นอนไม่เพียพอเมื่อออกไปกางเต๊นท์ปรากฎว่าอากาศร้อนมากคนกักตัวนอนไม่ได้"นายแพทย์สุริยะ กล่าว
นายแพทย์สุริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมีความกังวลหากในอนาคตมีปัญหาในลักษณะนี้อีกในโรงงานอื่น เนื่องจากในจังหวัดมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก และผู้ปฏิบัติงานภาคสนามส่วนใหญ่จะมีเพียงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนอ่อนล้าเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดที่ 4634 /2564 ตั้งศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่โรงงานสับปะรดฯ เพื่อปิดสถานที่ภายในโรงงานสับปะรดกระป๋องฯ หยุดสายการผลิตชั่วคราว ใช้กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งคนไทยและชาวเมียนมาเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-20 พฤษภาคม 2564 หากมีการผ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ระว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตาม พรก.ฉุกเฉิน 2548 ตามมาตรา 18
จากการสอบถามผู้บริหารเจ้าของโรงแรมหรูใจกลางเมืองหัวหิน ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีผู้กักตัวความเสี่ยงสูงจากโรงงานสับปะรดฯเข้ามาพักในโรงแรมจริง โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาตรวจติดตามอาการ เนื่องจากที่ผ่านมาโรงแรมมีห้องว่างจำนวนมาก สำหรับผู้ที่เข้ามาเช่าห้องพักรายวันเพื่อกักตัวส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารและพนักงานระดับสูงของโรงงานสับปะรด ยืนยันว่าทางโรงแรมใช้หลักมนุษยธรรมในการช่วยเหลือในการกักตัว หลังจากทราบว่าสถานที่กักตัว 14 วัน ในโรงงานไม่มีความพร้อม ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่ควร นอกจากนั้นหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดยังไม่มีสถานที่กักตัวที่มาตรฐาน มีเพียงการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี