“บิ๊กอู๊ด” นำแถลง “ตม.จว.นครสวรรค์-สืบ ตม.5” รวบ 2 หนุ่มไทย รวมหัวขนเมียนมาเกือบ 60 คน หลบหนีเข้าเมือง สารภาพสิ้นเตรียมส่งเข้าพื้นที่จังหวัดปริมณฑล
21 พฤษภาคม 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม 5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 และ พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.จว.นครสวรรค์ ร่วมแถลงข่าวจับกุมขบวนการลักลอบขนต่างด้าวหนีเข้าเมือง
สืบเนื่องจาก ตม.จว.นครสวรรค์ ได้บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.3 ด่านตรวจพยุหะคีรี , ภ.จว.นครสวรรค์ , ทล.4 กก.1 บก.ทล. และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจสกัดกั้นการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ บริเวณถนนพหลโยธิน ขาเข้า กทม. ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
ต่อมาได้ทำการจับกุมตัว นายสมศักดิ์ พร้อมของกลางรถยนต์กระบะบรรทุก จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมแรงงานผิดกฎหมาย 28 คน และได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทล.4 กก.1 บก.ทล. ทำการสกัดจับกุมนายคมสันต์ พร้อมของกลางรถยนต์กระบะบรรทุก 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมแรงงานผิดกฎหมาย จำนวน 25 คน รวมผู้ต้องหาคนไทย 2 คน แรงงานต่างด้าว 53 คน
ทั้งนี้ กล่าวหานายสมศักดิ์ และนายคมสันต์ ว่า “ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือ ด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นการจับกุม ฝ่าฝืนข้อบังคับตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และฝ่าฝืนคำสั่ง ผจว.นครสวรรค์ (ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่)” และกล่าวหาคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ทั้ง 53 คน ว่า “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนข้อบังคับตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และฝ่าฝืนคำสั่ง ผวจ.นครสวรรค์ (ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่) นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีผู้ว่าจ้างให้เดินทางไปรับแรงงานต่างด้าวทั้ง 53 คน ลักลอบเดินทางไปทำงานในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล ขณะนี้อยู่ในระหว่างสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี