วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง ในทุกๆ วันดวงอาทิตย์มีขึ้นมีลง ต้นไม้ยังผลิดอกออกใบ เด็กน้อยค่อยๆ เติบโต หนุ่มสาวมุ่งไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่สดใส โบราณสถานเก่าแก่แค่ไหนก็ยังคงต้องบูรณะ สิ่งที่หยุดนิ่งคือสิ่งที่ตายแล้วเท่านั้น
ในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ผ่านความเปลี่ยนแปลงโดยบูรพมหากษัตริย์ทุกยุคสมัย นำพาความเจริญรุ่งเรืองให้ปวงประชาเรื่อยมา
วันนี้ในอดีต เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยต้องจดจำ ในส่วนของการของการคมนาคม ระหว่างกรุงเทพฯ สมุทรสงคราม และราชบุรี ถือเป็นวันกำเนิดของ “คลองดำเนินสะดวก” เส้นทางน้ำที่ทำให้ผู้คนได้ดำเนินสะดวกสมชื่อ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้ทรงมีพระราชดำริว่า “การคมนาคมที่ไปมาระหว่างกรุงเทพฯ สมุทรสาคร มีคลองภาษีเจริญการสัญจรไปมาได้สะดวกดี แต่ถ้ามีคลองระหว่างกรุงเทพฯสมุทรสงคราม และราชบุรีก็จะสะดวกขึ้นอีกเป็นอันมาก โดยอาศัยแม่น้ำแม่กลองเป็นสื่อกลาง เมื่อเป็นคลองได้การไปมาหาสู่โดยทางน้ำก็จะมีความสามารถและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น”
ใน พ.ศ.๒๔๙๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์(ช่วง บุนนาค) ที่พระสมุหกลาโหม เมื่อครั้งยังพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระปราสาทสิทธิ์เป็นผู้อำนวยการควบคุมดูแลการขุดคลองที่เชื่อมจากแม่น้ำท่าจีนเริ่มจากปากคลองบางยาง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กับแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
เป็นเรื่องที่น่าทึ่งว่า การขุดดินนี้ใช้กำลังแรงงานของคนล้วนๆ โดยไม่มีการใช้เครื่องจักรหรือเครื่องทุ่นแรงอย่างอื่นเลย เป็นกำลังของทหาร ข้าราชการประชาชน ตลอดจนชาวจีนที่มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยใหม่ๆ ร่วมกันขุด ซึ่งแรงงานส่วนมากจะเป็นคนจีนเป็นผู้รับจ้างขุด และเป็นการขุดคลองตรงหากเดือนหงายกลางคืนจะขุดกันทั้งคืนเพราะเลี่ยงอากาศร้อน คนจีนสมัยนั้นส่วนมากจะไว้ผมเปีย เมื่อทำงานตอนกลางคืนจะนุ่งผ้าเตี่ยวผืนเดียวขุดดินใส่บุ้งกี๋ แล้วก็หาบดินนั้นเอาขึ้นไปทิ้งนอกเขต
หลังจากที่ขุดเสร็จ รัชกาลที่ ๔ ทรงเห็นว่าเป็นคลองที่มีเส้นตรง ได้รับความสะดวกในการสัญจร จึงพระราชทานนามคลองที่ขุดใหม่นี้ว่า “คลองดำเนินสะดวก”และได้ทำพิธีเปิดใช้คลองนี้เมื่อวันจันทร์เดือน ๗ ขึ้น ๔ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๒๕ พฤษภาคมพ.ศ.๒๔๑๑ นับรวมอายุคลองจนถึงวันนี้ได้ ๑๕๓ ปี
คลองดำเนินสะดวกนี้เดิมมีความยาวมากถึง
๓๕ กิโลเมตร เมื่อแรกขุดนั้นกว้างประมาณ ๖ วา
และลึก ๖ ศอก แต่นานเข้าตลิ่งถูกน้ำพัดผ่านกัดเซาะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากแรงกระทบของคลื่นเรือยนต์ประเภทต่างๆ เป็นเหตุให้คลองขุดขยายกว้างขึ้นเป็น ๑๐ วาบ้าง ๑๕ วาบ้าง และบางแห่งกว้าง ๒๐ วา ก็มี เป็นคลองที่ผ่านเขตถึง ๓ อำเภอใน ๓ จังหวัด คือ อำเภอบ้านแพ้ว อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอบางคนที
ธรรมดาของคลองสมัยโบราณจะมีหลักเขตเพื่อบอกที่อยู่ที่แน่ชัดของผู้คนริมคลอง มีเสาหินสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ๑๐ × ๑๐ นิ้ว ปักไว้ที่พื้นดินหลักเขตจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความยาวของคลอง คือ หลักละ ๑๐๐ เส้น (๔ กิโลเมตร)
สำหรับคลองดำเนินสะดวกนั้น มีหลักทั้งหมด ๘ หลัก แต่ละหลักจะสลักและเขียนสีแดงเป็น ๓ ภาษา คือ เลขไทย โรมัน จีน บอกเลขไว้ทุกหลัก ประตูน้ำของคลองดำเนินสะดวกมี ๒ แห่ง คือประตูน้ำบางยาง ในอ.บ้านแพ้วจ.สมุทรสาคร และประตูน้ำบางนกแขวก ในอ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ทั้ง ๒ แห่งกว้าง๖ เมตร สูง ๕ เมตร สร้างขึ้นเป็นทางปล่อยเรือเข้าออกคลองซึ่งมีมากมายในสมัยก่อน และยังสามารถกั้นน้ำเค็มที่จะทำลายผลผลิตของชาวบ้านได้อีกด้วย
และในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ ๒ กองทัพญี่ปุ่นได้ใช้คลองดำเนินสะดวกเป็นเส้นทางเดินทางไปยัง จ.ราชบุรี ประตูน้ำทั้ง ๒ แห่งได้ถูกทำลายลงในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ จากระเบิดของฝ่ายสัมพันธไมตรีเพื่อขัดขวางการเดินเรือของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ประตูน้ำทั้ง ๒ แห่ง ก็ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่เช่นเดิม งบประมาณในการขุดคลองดำเนินสะดวก ใช้งบประมาณ ๑,๔๐๐ ชั่งเป็นเงิน ๑๑๒,๐๐๐ บาท โดยเป็นทรัพย์สินของร.๔ จำนวน ๔๐๐ ชั่ง ของสมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ จำนวน ๑,๐๐๐ ชั่ง
และเนื่องจากสมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ ร.๔ จึงทรงอนุญาตให้ท่านและคนในสายสกุลบุนนาคเข้าจับจองที่ดิน๒ ฝั่งคลองได้
ทำให้มีเจ้านายผู้ใหญ่หลายคนมาจับจองที่ดินซึ่งเป็นป่ารก ดงอ้อ ดงแขม พร้อมขุดคลองน้อย คลองซอยแยกจากคลองใหญ่เพื่อเข้าสู่พื้นที่ของตนจากป่าดงพงแขม กลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหลักของชาวดำเนินสะดวกในการเลี้ยงชีพจนทุกวันนี้
ไม่ว่าจะเป็นการปลูกฝรั่ง ชมพู่ มะกอก พุทรา มะยม ลิ้นจี่ ขนุน มะม่วงมะพร้าว หัวหอม แตงโม แตงร้าน แปะฉ่ายหรือสินค้าจำพวกพริกแห้ง หอม กระเทียมล้วนมาจากที่นี่ทั้งสิ้น
หลังจากที่เปิดใช้คลองดำเนินสะดวกแล้ว คลองก็เต็มไปด้วยเรือนานาชนิดที่สัญจรไปมาไม่เว้นแต่กลางคืน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นเรือพ่อค้าแม่ค้าชาวจีนจากที่ต่างๆ ที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในตอนต้นสมัยรัตนโกสินทร์ ส่วนมากเป็นแต้จิ๋ว และฮกเกี้ยน
ลิ้มหรือแซ่ลิ้ม เป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งในคลองดำเนินสะดวก นอกจากนี้ก็มีอีกหลายตระกูล ทำให้มีลูกหลานว่านเครือสืบทอดมาจนทุกวันนี้ หากล่องไปตามคลองก็จะเห็นศาลเจ้าอยู่คู่กับชุมชนชาวจีนหลายสิบแห่ง เป็นเส้นทางคมนาคมค้าขายที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในเมืองไทย
จนกระทั่งภายหลังมีการตัดถนนใหม่ ย่นระยะทางให้สั้นลง และเข้าถึงทุกที่ ในขณะที่คลองซอย ซึ่งมีมากถึง ๒๐๐ สาย เริ่มตื้นเขิน และค่อยๆ เลิกใช้ไป
เมื่อจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นมากความเจริญ และเทคโนโลยีก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยผู้คนกลับต้องถมคลองเพื่อขยายถนนให้รถราสัญจรได้สะดวก ใช้เครื่องยนต์ เครื่องจักรที่ทันสมัยทดแทนแรงงาน
สำหรับคลองดำเนินสะดวก แม้จะเปลี่ยนวิถีไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงหลายชีวิตที่อยู่ริมน้ำ เคียงคู่ประวัติศาสตร์การก่อสร้างอันน่าทึ่ง ที่ไว้คอยบอกเล่าให้ลูกหลานฟัง อย่างภูมิใจตราบนานเท่านาน
ปัจจุบันคลองแห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดราชบุรีคือ “ตลาดน้ำดำเนินสะดวก” นั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี