สำนักเลขานุแอปเตอร์ ได้มีโอกาสต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสถานทูตจีน ประจำประเทศไทย นำโดยท่านหวัง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ รวมทั้งนางสาวยู่วหยาง เลขานุการเอก และนาย หวู๋เฟย ผู้ช่วยเลขานุการ การนัดหมายที่จะมาเยี่ยมสำนักเลขานุการแอปเตอร์ถูกเลื่อนมาแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุผลของโควิด-19 แต่พอเขากำหนดมาครั้งที่สอง เราก็เลยตอบตกลง เพราะหากจะรอความปลอดภัยจากโควิดเสียก่อน ก็คงจะไม่มีโอกาสจะได้พบกัน เอาเป็นว่า เราใช้วิธีป้องกันสวมหน้ากาก และรักษาระยะห่างไว้ ก็น่าจะปลอดภัยพอ เอาเรื่องงานไว้ก่อน ดีกว่าจะงดหรือเลื่อนออกไปอีก
ท่านอัครราชทูตจีนท่านนี้ เพิ่งย้ายมาประจำที่กรุงเทพฯ เดิมประจำอยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และโดยเหตุที่ประเทศจีนเป็นสมาชิกแอปเตอร์ที่สำคัญในกลุ่มบวกสาม มีปริมาณข้าวที่สำรองเพื่อความมั่นคงฉุกเฉินมากที่สุดในบรรดาสมาชิกแอปเตอร์ 13 ประเทศ คือ 300,000 ตัน อีกทั้ง ถือเป็นครั้งแรกที่ทางการจีนมาเยี่ยมชมแอปเตอร์ โดยเท่าที่ทราบคณะผู้แทนสถานทูตจีนที่มาเยี่ยมแอปเตอร์วันนี้เมื่อประมาณเดือนก่อน ก็ได้เข้าพบท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาแล้ว นัยว่าท่านอัครราชทูตท่านนี้คงต้องการกระชับความสัมพันธ์ รวมทั้งพยายามแสวงหาความร่วมมือต่างๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องระหว่างประเทศจีนและประเทศไทย ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางการจีนเป็นอย่างมากที่ได้เห็นความสำคัญของแอปเตอร์ จนถึงขนาดเดินทางมาเยี่ยมชมด้วยตนเองเป็นครั้งแรก
ท่านหวัง ลี่ผิง เป็นคนคุยเก่งสมเป็นนักการทูต เริ่มต้นก็เล่าถึงวัตถุประสงค์ที่มาพบแอปเตอร์ พร้อมกับต้องการรับฟังกิจกรรมของแอปเตอร์ที่ดำเนินการอยู่ รวมทั้งความต้องการของแอปเตอร์ที่อยากจะได้จากจีน ซึ่งฝ่ายเราก็ได้เล่าถึงการช่วยเหลือสนับสนุนของจีนในอดีตที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า เมื่อเทียบกับญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้แล้ว จีนยังไม่มีกิจกรรมมากเท่าที่ควร กล่าวคือ มีเพียงครั้งเดียวที่ประเทศจีนบริจาคข้าวให้กับประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2013- 2014 คราวที่ประเทศฟิลิปปินส์โดนพายุไต้ฝุ่นไห่เอี้ยน ตอนนั้นทางการจีนช่วยข้าวสารไป 800 ตัน แต่หลังจากนั้นกิจกรรมของจีนก็ดูจะเงียบๆ ไป แต่กระนั้น ในด้านการบริจาคเงินเข้ากองทุนแอปเตอร์ จีนก็ได้ดำเนินการเป็นประจำอยู่ทุกปี มิได้ขาด ตอนผมเข้ามาเป็นผู้จัดการทั่วไปก็ได้รู้จักกับมนตรีแอปเตอร์ผู้แทนประเทศจีนคุณหม่าหงเทา ที่เป็นรองอธิบดีกรมความร่วมมือทางการเกษตร ได้คุยกันก็เห็นว่าจีนสนใจที่จะเข้ามาดำเนินกิจกรรมร่วมกับแอปเตอร์ เราก็อยากหวังให้จีน ซึ่งเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ เข้ามามีบทบาทช่วยเหลือประเทศอาเซียนมากขึ้น ผมก็หวังว่าทางสถานทูตจีนคงจะเก็บเอาข้อเสนอของเราที่ต้องการจะให้ประเทศจีนเพิ่มบทบาทในแอปเตอร์ให้มากขึ้น ไปแจ้งต้นสังกัดเขานะครับ
สุดท้ายผมได้เชิญคณะจีน เดินดูห้องทำงาน มีห้องผู้เชี่ยวชาญว่างอีก 2 ห้อง เลยบอกว่า ทางการไทยที่สนับสนุนด้านอาคารสถานที่ได้ทำห้องเผื่อไว้สำหรับผู้แทนประเทศบวกสามที่อยากจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาประจำแอปเตอร์ ซึ่งท่านอัครราชทูตยังแซวว่าให้คุณยู่วหยาง ซึ่งมาจากกระทรวงเกษตรจีน ว่าในอนาคตน่าจะสมัครมานั่งทำงานที่นี่ดีกว่า จนเสร็จการเยี่ยมเยียนคณะจีนก็ได้ร่ำลาเดินทางกลับสถานทูต
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี