วันที่ 9 มิถุนายน 2564 จากกรณีที่อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรีร่วมนำร่องฉีดวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก รอบกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปและ กลุ่ม 7 โรค เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา แต่ได้รับจัดสรร วัคซีนเพียง 10 โดส จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาทาง รพ.สังขละบุรี และสาธาณสุข อ.สังขละบุรี ได้ร่วมรณรงค์ให้กลุ่มผู้สูงอายุและบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว 7 โรคเรื้อรัง ที่อำเภอสังขละบุรี เดินทางมารับวัคซีน แต่ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน รวมทั้งยังมีความกลัวผลข้างเคียง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ที่จะรับวัคซีนที่นี่ จึงมีการงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมเพียง 10 ราย จึงทำให้ได้รับโควต้าวัคซีนมาจำนวน 10 โดส ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง
อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ห่างไกลของอำเภอสังขละบุรียังไม่มีความพร้อมเรื่องการลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม เพราะบางแห่งยังไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ทำให้ลงทะเบียนในช่วงแรกน้อย และยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรคไปในวงกว้าง อย่างไรก็ตามฝ่ายสาธารณสุขในพื้นที่ได้มอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้รับการจัดสรรในล็อตต่อๆ ไป
สำหรับอำเภอสังขละบุรี ดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่มีความเสี่ยงสูงไปแล้ว รวม 234 ราย ส่วนเป้าหมายของการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรัง รวม 2,864 ราย ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18-59 ปี ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 8,285 ราย
ซึ่งล่าสุดมียอดผู้ลงทะเบียนผ่านการสำรวจของ อสม.ในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงกลุ่ม 7 โรค จำนวน 1,906 คน ประชาชนทั่วไป 8,138 คน ซึ่งจะได้มีการฉีดให้ในรอบต่อไป
ด้านนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า เหตุผลที่วันแรกๆ อ.สังขละบุรี ได้วัคซีนเพียง 1 ขวด เป็นเพราะมีผู้ลงทะเบียนไว้ 10 คนเท่านั้น หมอพร้อมจึงนัดได้เพียง 10 คน สำหรับวัคซีนล็อตที่จังหวัดกาญจนบุรีได้รับมีจำนวน 7,500 โดส และกระจายไปทั่วทั้งจังหวัด ในพื้นที่ 13 อำเภอ และก็ได้ให้ประชาชนมาฉีดตามที่ลงนัดในแอปฯ หม้อพร้อมไว้
ส่วนวัคซีนจะมีเพียงพอต่อการลงทะเบียนของประชาชนหรือไม่นั้น คาดว่าทางรัฐบาลก็จะทยอยส่งมาให้เรื่อยๆ แต่ไม่แน่ใจว่าจะทันตามกำหนดหรือความต้องการหรือไม่ ทั้งนี้ตนได้ให้ประชาชนทุกคนลงทะเบียนฉีดวัคซีน และจัดลำดับไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นวัคซีนมาเท่าไรก็จะฉีดไปเท่านั้น จนกว่าจะหมด อย่างไรก็ตามทราบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็สามารถจัดซื้อวัคซีนได้แล้ว ดังนั้นก็จะมาพิจารณาดูว่าจะเสริมอย่างไรให้เหมาะสม และเร็วกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ด้าน สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวที่อำเภอสังขละบุรีได้รับการจัดสรรวัคซีนมาน้อยเพียง 10 โดส หรือ 1 ขวด ว่า จังหวัดกาญจนบุรีได้ทยอยจัดสรรวัคซีนโควิดไปที่โรงพยาบาลทุกแห่ง โดยที่โรงพยาบาลสังขละบุรี ได้รับจัดสรร 7 ครั้ง รวมจำนวน 579 โดส มีการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้แก่บุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสูง เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อสม. ตำรวจ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัครรักษาดินแดน ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค รวมจำนวน 382 คน โดยยังไม่มีรายงานผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวที่อำเภอสังขละบุรีได้รับการจัดสรรวัคซีนมาน้อยเพียง 10 โดส หรือ 1 ขวด เนื่องจากเป็นการจัดสรรตามยอดการจองผ่านระบบหมอพร้อมที่ลงทะเบียนไว้พร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อตรวจสอบข้อมูลกับงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ซึ่งดูแลรับผิดชอบเรื่องการคีย์ข้อมูลเข้าระบบลงทะเบียนจองรับวัคซีนโควิด
สรุปคือช่วงปลายเดือนพฤษภาคมทางโรงพยาบาลสังขละบุรีได้ให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับกลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรค จึงไม่ได้คีย์นัดกลุ่มเป้าหมายในเดือนมิถุนายน เพราะต้องเว้นระยะห่าง 1 เดือน จึงเริ่มคีย์ข้อมูลเข้าระบบในเดือนกรกฎาคม ลงทะเบียนจำนวน 1,872 คน แต่สัปดาห์แรก ไม่ได้ลงคิวจองไว้ จึงได้รับการจัดสรรวัคซีนตามยอดที่คีย์ข้อมูลเข้ามาตามระบบดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมควบคุมโรคโยนผู้ว่าฯแจงปม'สังขละบุรี ได้วัคซีนโควิด 1 ขวด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี