"กมธ.ป.ป.ช."จี้"ผบ.ตร."แจงปมติดตามตัว"บอส วรยุทธ"ให้ชัดเจน - เอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนความเร็วรถในสำนวนคดี
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ว่า ได้มีการพิจารณากรณีที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา และทางคณะ กมธ.ได้เชิญ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติม แต่ ผบ.ตร.ก็ไม่ได้เดินทางมา ประกอบกับ กมธ.ป.ป.ช.ได้เชิญ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ และ พล.ต.อ.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร มาชี้แจง ซึ่ง พล.ต.อ.ชนสิษฏ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบประเด็นการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายวรยุทธ ได้เปิดเผยว่ามีการยุติการตรวจสอบ และมีความเห็นว่าจะดำเนินคดีทางอาญาหรือวินัยกับเจ้าหน้าที่คนใดเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งได้เสนอ ผบ.ตร.และคาดว่า ผบ.ตร.จะพิจารณาและมีคำสั่งภายในสัปดาห์นี้
นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า ทางคณะกรรมาธิการฯ ยังติดใจและจะเชิญ ผบ.ตร.มาชี้แจง โดยเฉพาะประเด็นที่มีการเสนอให้เปลี่ยนแปลงความเร็วในสำนวนการสอบสวนจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 79.23 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากมีการเปลี่ยนความเร็วจะเป็นการพลิกคดีครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้คนตั้งข้อสงสัยคนผิดทันที และถ้า สตช.สรุปว่าไม่สามารถเอาผิดใครได้ กรณีเปลี่ยนแปลงความเร็ว ก็จะเอาผิดใครไม่ได้เลย และนำไปสู่การไม่ฟ้องคดี เป็นความล้มเหลวในการดำเนินคดี
โฆษก กมธ.ป.ป.ช.กล่าวด้วยว่า ทาง กมธ.ยังสงสัยและจะติดตามกระบวนการติดตามตัวนายวรยุทธ มาดำเนินคดีด้วย เพราะเห็นว่าขณะนี้นายวรยุทธ ได้ใช้เชงเกนวีซ่า แต่ข้อมูลที่ทางตำรวจได้แจ้งกับตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล เป็นข้อมูลในพาสปอร์ตเก่าก็อาจทำให้อินเตอร์โพล ไม่สามารถติดตามตัวนายวรยุทธได้ จึงอยากให้ ผบ.ตร.มาชี้แจงเรื่องการติดตามตัวว่าได้มีการดำเนินการอย่างจริงจังหรือไม่ เพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี