รัฐไท พงษ์ศักดิ์
น้ำผึ้งชันโรง มีสรรพคุณทางยา สามารถนำไปใช้ในการแพทย์ และเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง จึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอย่างมาก เกษตรกรในชุมชนปัถวี จังหวัดจันทบุรี จึงรวมตัวกันเลี้ยงชันโรงในสวนผลไม้เพื่อช่วยผสมเกสร โดยจัดตั้งเป็นธนาคารชันโรง ขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อหมุนเวียนการนำชันโรงไปใช้ประโยชน์ในสวนของสมาชิก การันตีช่วยผสมเกสรได้ 100% และยังมีผลพลอยได้จากการจำหน่ายน้ำผึ้งชันโรงในราคาที่สูงถึงขวดละ 2,000 บาท
คุณรัฐไท พงษ์ศักดิ์ ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจชุมชนปัถวี จังหวัดจันทบุรี ผู้จัดการธนาคารชันโรงชุมชนปัถวี เปิดเผยว่า ทำสวนผลไม้อยู่ 45 ไร่ ปลูกทั้ง เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง โดยเน้นการทำแบบอินทรีย์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีมาเร่งให้ออกดอกออกผล เพราะเป็นห่วงสุขภาพของตัวเอง จึงมาพึ่งกลไกธรรมชาติ โดยใช้ชันโรงช่วยผสมเกสร ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เกษตรตำบล กรมส่งเสริมการเกษตรโดยเข้าร่วมฝึกอบรมการเลี้ยงชันโรงกับศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดจันทบุรี และเริ่มเลี้ยงชันโรงในสวนผลไม้ของตัวเองเรื่อยมา ซึ่งพบว่าประสิทธิภาพในการช่วยผสมเกสรได้ผล 100% และเมื่อเห็นประโยชน์ในการช่วยผสมเกสรจากการเลี้ยงชันโรง จึงชักชวนเกษตรกรในพื้นที่ให้หันมาเลี้ยงชันโรง พร้อมทั้งจัดตั้งธนาคารชันโรงขึ้นในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2560 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกในกลุ่มที่ยังไม่มีองค์ความรู้และทุนทรัพย์ในการลงทุนเลี้ยงชันโรง ได้มีรังชันโรงไปเลี้ยงเพื่อช่วยผสมเกสรภายในสวน รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ชันโรงให้มากขึ้นเพื่อช่วยรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
สำหรับธนาคารชันโรงมีรูปแบบการจัดการเหมือนธนาคารทั่วไป คือมีทั้งในด้านการรับฝากรังพันธุ์ชันโรง และการขอยืมรังพันธุ์ชันโรง โดยมีกฎกติกาคือ สมาชิกที่นำรังพันธุ์ชันโรงมาฝากกับธนาคาร เมื่อทำการฝากรังพันธุ์ชันโรงไว้กับธนาคารครบ 1 ปี สมาชิกจะได้รับดอกเบี้ยเป็นรังพันธุ์ชันโรงเพิ่มขึ้น เช่น นำมาฝาก 5 รังจะได้ดอกเบี้ยเป็นรังชันโรงเพิ่ม 1 รัง รวมเป็น 6 รัง ส่วนสมาชิกที่ต้องการขอยืมรังพันธุ์ชันโรงจากธนาคารไปเลี้ยง เมื่อครบ 1 ปี สมาชิกผู้ยืมจะต้องนำรังพันธุ์ชันโรงกลับมาคืนให้ธนาคารชันโรงในจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากตอนที่ขอยืมไปจากธนาคาร เช่น ถ้ายืมรังพันธุ์ชันโรงจำนวน 5 รัง สมาชิกผู้ยืมจะต้องคืนรังพันธุ์ชันโรงให้กับธนาคารชันโรง เพิ่มขึ้น 2 รัง รวมเป็น 7 รัง โดยมีข้อแม้ว่าสมาชิกที่จะนำชันโรงไปเลี้ยง ต้องเป็นสวนผลไม้อินทรีย์ที่ไม่มีการใช้สารเคมีและต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน Organic Thailand มีการรักษาระบบนิเวศภายในสวนที่ดี
ปัจจุบันธนาคารชันโรงมีสมาชิกจำนวน 100 กว่าราย มีจำนวนรังพันธุ์ชันโรงที่สมาชิกมาฝากไว้ในธนาคารจำนวน 125 รัง ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการให้สมาชิกยืมไปเลี้ยง ธนาคารชันโรงจึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลบริหารจัดการให้สมาชิกที่ประสงค์จะยืมไปเลี้ยงได้รายละไม่เกิน 5 รัง แล้วนำไปขยายรังต่อ เพื่อลดต้นทุนในการซื้อรังชันโรงเข้ามาเลี้ยง ซึ่งมีราคาสูงถึงรังละ 1,500 บาท โดยธนาคารจะให้คำปรึกษา แนะนำการเลี้ยงที่ถูกต้อง การจัดหาแหล่งพืชอาหารให้เพียงพอต่อการแยกขยายรังชันโรง ซึ่งธนาคารชันโรงจะมีการประชุมชี้แจงและรายงานผลการดำเนินงานให้สมาชิกภายในกลุ่มได้ทราบเป็นระยะ รวมถึงจะทำหน้าที่รวบรวมผลผลิตน้ำผึ้งจากสมาชิกเพื่อบรรจุภัณฑ์จำหน่ายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยมีช่องทางการจำหน่ายทั้งที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจชุมชนปัถวี และช่องทางออนไลน์ เพจปัถวีโมเดล ในราคาขวดละ 2,000 บาท(700 ml) ซึ่งตลาดให้การตอบรับดีมาก ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายน้ำผึ้งชันโรงหลักหมื่นบาทต่อปี ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เลี้ยง (ผึ้งชันโรง 1 รังให้ผลผลิตน้ำผึ้ง 1 ขวดต่อปี)
“อยากเชิญชวนเกษตรกรให้หันมาเลี้ยงชันโรงในสวนเพื่อช่วยผสมเกสร เพราะชันโรงเป็นแมลงช่วยผสมเกสรที่มีประสิทธิภาพ และเป็นตัวชี้วัดความสมดุลของระบบนิเวศได้เป็นอย่างดี สามารถการันตีผลผลิตทางการเกษตรได้ว่าปลอดภัยจากสารเคมี และเกษตรกรยังสามารถจำหน่ายน้ำผึ้งชันโรง ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเลี้ยงชันโรงได้อีกทางหนึ่งด้วย” คุณรัฐไท ฝากทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี