“ผบช.สตม.” นำแถลง “ตม.1” รวบ 2 ฝรั่งเฒ่าเจ้าเล่ห์ “โอเวอร์สเตย์” พฤติกรรมสุดแสบ แถมเบี้ยวค่าเช่าอพาร์ตเม้นท์หรูย่านสาทรนานเป็นปีเกือบล้านบาท
11 มิถุนายน 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล , พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมแถลงข่าวจับกุมชาวต่างชาติกระทำผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของอพาร์ตเมนท์หรูแห่งหนึ่งย่านสาทร ว่าตนเป็นเจ้าของตึกอพาร์ตเมนท์เก่าแก่ระดับหรู มีชาวต่างชาติทั้งชาวยุโรปและอเมริกันเช่าอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีราคาค่าเช่าตั้งแต่ 50,000-100,000 บาท แต่มีชาวต่างชาติสูงอายุ 2 ราย เช่าพักอาศัยอยู่เป็นเวลานานแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมจ่ายค่าเช่าติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน มูลค่าความเสียหายเกือบล้านบาท จึงได้ให้สำนักงานบริหารอพาร์ตเมนท์ทวงถาม ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีทรัพย์สินเหลือพอจะจ่ายค่าเช่า และจะไม่ยอมย้ายออกจากอพาร์ตเมนท์ โดยอ้างเหตุผลต่างๆ ทั้งเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ความชรา และมนุษยธรรม
ต่อมาทางอพาร์ตเมนท์ได้มีจดหมายขอให้บุคคลทั้งสองเก็บของและย้ายออกจากอพาร์ตเมนท์ โดยยังไม่ได้พูดคุยถึงค่าเช่าที่ค้างชำระ แต่เมื่อทั้งสองได้รับจดหมายเตือนดังกล่าว นอกจากจะไม่ย้ายออกแล้ว ยังมีพฤติกรรมดื้อดึงขัดขืนไม่ยอมย้ายออก นอกจากนั้นคนต่างชาติทั้งสองยังมักมีพฤติกรรมชอบออกไปเที่ยวเมาสุราและกลับมาโวยวายที่อพาร์ตเมนท์ และมีครั้งหนึ่งเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มหัวฟาดพื้นบริเวณหน้าลิฟท์ เจ้าหน้าที่อพาร์ตเมนท์ได้เรียกรถพยาบาลเพื่อนำตัวไปรักษา แต่ปรากฏว่ายังพากันหนีออกมาจากโรงพยาบาลทั้งชุดผู้ป่วยกลับมาอาศัยในอพาร์ตเมนท์ตามเดิมและรักษาตัวกันเอง ทั้งยังนำกระดาษเขียนข้อความกล่าวหาเจ้าของอพาร์ตเมนท์นำไปติดทั่วอพาร์ตเมนท์
ทางอพาร์ตเมนท์เห็นว่าบุคคลทั้งสองมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยได้รับอนุญาตในเหตุผลใช้ชีวิตบั้นปลาย ประกอบกับการใช้ชีวิตหลังเกษียณนั้น ควรจะมีการวางแผนการใช้จ่ายที่เป็นเรื่องเฉพาะตัว และอพาร์ตเมนท์ที่เช่าอยู่ก็มีค่าเช่าสูง แต่ทั้งนี้ทางอพาร์ตเมนท์ก็มีจิตเมตตาที่จะพร้อมเจรจาประนีประนอมค่าเช่า หรือให้ผ่อนชำระได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม จึงได้ร้องเรียนมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้เดินทางมาตรวจสอบบุคคลทั้งสอง
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 ได้เคยเดินทางไปตรวจสอบเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563 พบว่า ชาวต่างชาติทั้งสองเพิ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้แนะนำให้ทางเจ้าของอพาร์ตเมนท์ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ ดำเนินคดีฟ้องขับไล่ซึ่งเป็นคดีแพ่งไปก่อน ต่อมาทางเจ้าของอพาร์ตเมนท์ได้ทำการฟ้องคดีต่อศาล ผลคำพิพากษาศาลตัดสินให้ชาวต่างชาติทั้งสองออกจากอพาร์ตเมนท์และชำระค่าเสียหายคือค่าเช่าที่ค้างชำระจำนวนเกือบ 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าชาวต่างชาติทั้งสองก็ยังดื้อดึงไม่ออกจากอพาร์ตเมนท์ เจ้าของจึงแจ้งเรื่องต่อกรมบังคับคดีให้มาปิดหมายบังคับคดีที่อพาร์ตเมนท์ แต่ยังติดขัดเนื่องจากเป็นช่วงเวลาสถานการณ์โควิด-19 ทางอพาร์ตเมนท์มีความอัดอั้นใจว่าเหตุใดตนซึ่งไม่ได้มีความผิดอะไร จะต้องมาได้รับความเสียหายและรับภาระดูแลชาวต่างชาติทั้งดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือชี้แจ้งข้อเท็จจริงต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอให้พิจารณาไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติทั้งสองอยู่ต่อตามอำนาจหน้าที่ และขอให้เดินทางมาตรวจสอบอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 จึงได้จัดกำลังไปตรวจสอบอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่อพาร์ตเมนท์พบคนต่างชาติทั้งสองพักอาศัยอยู่ตามที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จากการตรวจสอบปรากฏว่าชาวต่างชาติทั้งสอง คือ นายโรส กับ นายรีส การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดลงแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งสิทธิและจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี