ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดบุกเดี่ยวปล้นร้านทองชานันท์ เลขที่ 191 ถนนศรีนคร ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.64 เวลา 12.30 น.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป ซึ่งในขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เฝ้าร้านทองพักเที่ยงออกไปทานข้าว จึงไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เฝ้าร้าน คงมีแต่เจ้าของร้านอยู่คนเดียว จึงเป็นโอกาสให้คนร้ายซึ่งเป็นชายวัยรุ่น บุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด บุกเข้าเข้าไปในร้าน โดยเมื่อเข้าไปภายในร้านก็ได้ชักอาวุธปืนสั้นไม่ทราบชนิดออกมาเล็งใส่เจ้าของร้าน ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าร้านหลบหนีไป โดยไม่ได้เอาทรัพย์สินอะไรไป ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนบุรีได้รับแจ้งเหตุจึงได้ให้ชุดสืบกระจายกำลังออกติดตามโดยได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในร้านทองที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ผมบ๊อบสั้น กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อเชิ้ตแขนสั้นลาย สวมรองเท้าผ้าใบสีแดง ขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาวดำยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก พร้อมทั้งยังได้ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆที่คาดว่าคนร้ายจะขับผ่านด้วย เพื่อที่จะรวบรวมพยานหลักฐานออกติดตามตัว
หลังจากนั้น พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.รัตนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.รัตนบุรี ตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้ตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลรัตนบุรี จนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาคือนายเจนหยก อาจารีย์ อายุ 19 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ บ้านเลขที่ 14 ม.ที่ 7 ต.ทุ่งกุลา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดรัตนบุรี ที่ จ.22/2564 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2564 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน "พยายามชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด" โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ปั้มน้ำมันพีที พื้นที่ สภ.สุวรรณภูมิ ปี 2561 หลังพ้นโทษจากสถานพินิจ ประมาณเดือน มิ.ย.64 ได้มาพักอาศัยอยู่ตามภูมิลำเนา จึงติดตามจับกุมตามหมายจับได้ที่บ้านดังกล่าว
ต่อมาได้ขยายผลตรวจค้นยึดของกลางได้ เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินลายรูปรถยนต์ รองเท้าสีแดง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ซีซี สีขาวดำ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุพยายามจี้ชิงทรัพย์ ในเขตพื้นที่ สภ.รัตนบุรี ซึ่งตรงกับกล้องวงจรและอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ที่ใช้ก่อเหตุในเขตพื้นที่ สภ.รัตนบุรี และ สภ.ศีขรภูมิ ซึ่งตรงกับกล้องวงจรปิดบริเวณภายในร้านทองชานันท์ ในตลาด อ.รัตนบุรี ที่เกิดเหตุ และเสื้อคลุมนอกสีขาวแขนยาวมีอักษร CHINA ที่ใช้ก่อเหตุพยายามจี้ชิงทรัพย์ ปั้มน้ำมัน PT เขตพื้นที่ สภ.ศีขรภูมิ ซึ่งตรงกับกล้องวงจรปิด บริเวณภายในปั้ม PT ที่เกิดเหตุและหลักฐานพยานอีกหลายชิ้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเก็บรวบรวมมาได้จากการที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทั้งหมดนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามคนร้ายได้จากกล้องวงจรปิด จากโครงการเซฟตี้โซนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 3 ทำให้สามารถติดตามคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 มิ.ย.64 ที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเองและได้แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีพยายามชิงทรัพย์ร้านทองโดยมีหรือใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอรัตนบุรี ที่บริเวณหน้า สภ.รัตนบุรี โดยระบุว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นเยาวชนอายุ 19 ปีก่อเหตุชิงทรัพย์มาแล้ว 7 ครั้ง โดยเฉพาะเดือนนี้เดือนเดียวได้ก่อเหตุมากแล้วถึง 3 ครั้งเจ้าหน้าตำรวจได้พยานหลักฐานมาจากกล้องวงจรปิด ในโครงการ 1 อำเภอ 1 เชฟตี้โซนตามนโยบายของสำนักตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 3 ทำให้สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ซึ่งก็ต้องขอชมเชยตำรวจ สภ.รัตนบุรีทุกนายที่มุ่งมั่นทำงานจนสำเร็จในครั้งนี้
ขณะที่นายทวีวัฒน์ วิภูมิตสิตสกุล อายุ 43 ปี เจ้าของร้านทองชานันท์ที่ผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปหวังจี้ชิงทองได้เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้เพื่อของคุณ ผบช.ภ.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม และ นายปรีชา ศรีโสดา นายก อบต.รัตนบุรี และประธาน กต.ตร.รัตนบุรี ได้เดินทางมาเป็นตัวแทนประชาชนอำเภอรัตนบุรีกล่าวของคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ด้วย หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดทำแผนยังบริเวณที่เกิดเหตุ ร้านทองชานันท์ ถนนศรีนคร ก่อนที่จะนำตัวกลับพร้อมกับทำเรื่องส่งตัวฝากขังต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี