เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณากรณีกล่าวหา พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
โดยปรากฎข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดสรรเงินค่าตอบแทน (ค่าเบี้ยเลี้ยงงบโควิด-19) ให้สถานีตำรวจภูธรทุ่งสง เพื่อเบิกจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติงานนอกที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงได้ตามที่ตกลงในอัตราคนละ 60 บาทต่อชั่วโมง โดยเบิกจ่ายเท่ากับที่ปฏิบัติงานจริง แต่ไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งในวันราชการและวันหยุดราชการ และงดเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.63 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อโควิด-19 จะยุติลง
ต่อมาสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง ได้มีการประชุมประจำเดือน ก.ย.63 ในวันอังคารที่ 29 ก.ย.63 ณ สถานีตำรวจภูธรทุ่งสง โดยมี พ.ต.อ.สมพงศ์ เป็นประธานที่ประชุม โดยมีข้าราชการตำรวจเข้าประชุมประมาณ 200 นาย ซึ่งในที่ประชุมได้ชี้แจงเกี่ยวกับการได้รับการจัคสรรงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายในการแก้โขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคงของตำรวจ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
โดย พ.ต.อ.สมพงศ์ ได้ชี้แจงรายละเอียดงบประมาณและวิธีการเบิกจ่ายให้ในที่ประชุมทราบ โดยในส่วนของจำนวนเงินค่าตอบแทน (ค่าเบี้ยเลี้ยงงบโควิด-19) นั้น พ.ต.อ.สมพงศ์ ได้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจทุกนายของสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนรายละ 15,000 บาท ให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับเงินเกินจาก 15,000 บาท นำไปบริจาคให้กับสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง เพื่อนำไปให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการจัดสรรน้อยกว่า 15,000 บาท เพื่อความเท่าเทียมกันและเพื่อความสามัคคีในสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง ส่วนเงินที่หลือจากการปันส่วน ให้เก็บไว้เป็นกองกลางเป็นเงินบริหารของสถานีตำรวจ จัดหาอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน จัดงานตำรวจ จัดงานสังสรรค์ภายในสถานีตำรวจภูธรทุ่ง ปฏิบัติงานและอื่นๆ โดยให้เจ้าหน้าที่การเงินสถานีตำรวจภูธรทุ่งสงมีหน้าที่ในการเก็บรวบรวม ที่ พ.ต.อ.สมพงศ์ ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเงินค่าตอบแทน (ค่าเบี้ยเลี้ยงงบโควิด-19) เป็นการจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติงานนอกที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ซึ่งในขณะนั้นมีข้าราชการตำรวจหลายรายไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีใครโต้แย้งหรือคัดค้าน
และปรากฏข้อเท็จจริงต่อมาว่าสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง ได้เรียกเก็บเงินค่าตอบแทน (ค่าเบี้ยเลี้ยงงบโควิต-19) จากข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานนอกที่ศูนย์ปฏิบัติการ และได้มีการนำไปจัดสรรให้กับข้าราชการดำรวจที่ได้รับจัดสรรน้อยกว่า 15,000 บาท และข้าราชการตำรวจที่ไม่มีสิทธิจะได้รับ เพื่อให้ถึงจำนวน 15,000 บาท โดยหากมีข้าราชการตำรวจรายได้ไม่เห็นด้วยและไม่ยอมนำเงินคำตอบแทน (ค่เบี้ยเลี้ยงงบโควิด-19) มาคืนให้กับสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง พ.ต.อ.สมพงศ์ ก็จะออกคำสั่งย้ายปรับเปลี่ยนหน้าที่ข้าราชการตำรวจรายนั้น เพื่อไม่ให้ข้าราซการตำรวจรายอื่นถือเป็นตัวอย่าง
นายนิวัติไชย กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนแล้วเห็นว่า การกระทำของ พ.ต.อ.สมพงศ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรามการทุจริต พ.ศ.2563 มาตรา 172 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง เห็นควรส่งรายงานและความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงานเอกสาร และความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี