“ผบช.สตม.” นำแถลง “ตม.2” รวบ 2 คนจีน หวังใช้ “ใบสูติบัตร” ปลอม นำเด็กไทยออกนอกประเทศ
29 มิถุนายน 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ , พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ,พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.ตม.2 และ พ.ต.อ.ชัยธนันท์ จิรปิยเศรษฐ์ ผกก.สส.ปป.บก.ตม.2 ร่วมแถลงข่าวจับกุมคนต่างชาติใช้ใบสูติบัตรปลอม
สืบเนื่องจากฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และกองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ตรวจเข้มผู้โดยสารชาวต่างชาติที่นำเด็กที่เกิดในประเทศไทยออกนอกราชอาณาจักร จนนำมาสู่การจับกุม 2 ชาวจีนปลอมใบเกิดเด็กไทย เปลี่ยนจากบิดาสัญชาติไทย เป็นบิดาสัญชาติจีน โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”
รายที่ 1 ผู้ถูกจับกุมเป็นชาย สัญชาติจีน อายุประมาณ 54 ปี พร้อมด้วยเด็กชายเก่ง (นามสมมติ) สัญชาติไทย อายุ 6 เดือน 22 วัน ได้มาขอรับการตรวจอนุญาตเพื่อเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยไปยังเมืองเฉิงตู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้ยื่นเอกสารประกอบการนำพาเด็กชายเก่ง ซึ่งเกิดในประเทศไทยให้เจ้าหน้าที่ฝ่าย ตม.ขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการพิจารณาตรวจอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยอ้างว่า นางสาวบี (นามสมมติ) ผู้เป็นมารดา สัญชาติไทย เดินทางมาส่งยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ ฝ่าย ตม.ขาออกฯ ผู้ตรวจสงสัยในเอกสารประกอบการเดินทางในส่วนของใบสูติบัตร ในรายละเอียดที่ปรากฏตามใบสูติบัตร ซึ่งระบุว่า นางสาว บี เป็นมารดา และ ผู้ถูกจับกุมสัญชาติจีน เป็นบิดา เมื่อเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ฝ่าย ตม.ขาออก ได้ดำเนินการตรวจสอบใบสูติบัตรดังกล่าว โดยสแกนข้อมูลจาก QR Code บนใบสูติบัตร ปรากฏข้อมูลหมายเลขประจำตัวประชาชน ตรงกับหมายเลขประจำตัวประชาชนของเด็กชายเก่งที่แสดงในใบสูติบัตรจริง การตรวจสอบดังกล่าวเป็นการตรวจสอบตามหลักการตรวจสอบใบสูติบัตรเบื้องต้น
ขณะเดียวกันได้ประสานมายัง กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ในการร่วมตรวจสอบผู้โดยสารรายนี้ โดยเจ้าหน้าที่ กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้ดำเนินการตรวจสอบหมายเลขประจำตัวประชาชนของเด็กชายเก่งจากระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรที่เชื่อมต่อกับระบบ POLIS ผลการตรวจสอบพบว่า เด็กชายเก่งมีมารดาคือ นางสาวบี ส่วนบิดาไม่ใช่ผู้ถูกจับกุม แต่กลับเป็นนายซี (นามสมมติ) สัญชาติไทย ซึ่งข้อมูลไม่ตรงกับใบสูติบัตรที่ผู้ถูกจับกุมนำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จึงได้ดำเนินการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 2 ผู้ถูกจับกุมเป็นชาย สัญชาติจีน อายุประมาณ 58 ปี พร้อมด้วยเด็กชายเยี่ยม (นามสมมติ) สัญชาติไทย อายุ 1 ปี 6 วัน ได้มาขอรับการตรวจอนุญาตเพื่อเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยเพื่อเดินทางไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยผู้ถูกจับกุมได้ยื่นเอกสารประกอบการนำพาเด็กชายเยี่ยม ซึ่งเกิดในประเทศไทยให้เจ้าหน้าที่ ฝ่าย ตม.ขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ ผู้ตรวจอนุญาตสงสัยเอกสารประกอบในส่วนของใบสูติบัตรของเด็กชายเยี่ยม ที่ระบุว่ามีมารดาเป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ถูกจับกุม สัญชาติจีนเป็นบิดา เมื่อเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ฝ่าย ตม.ขาออกฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบใบสูติบัตรดังกล่าว โดยสแกนข้อมูลจาก QR Code บนใบสูติบัตร ปรากฏข้อมูลหมายเลขประจำตัวประชาชน ตรงกับหมายเลขประจำตัวประชาชนของเด็กชายเก่งที่แสดงในใบสูติบัตรจริง
ขณะเดียวกันได้ประสานมายัง กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ในการร่วมตรวจสอบผู้โดยสารรายนี้ โดยเจ้าหน้าที่ กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จึงได้ดำเนินการตรวจสอบหมายเลขประจำตัวประชาชน ของเด็กชายเยี่ยม จากระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรที่เชื่อมต่อกับระบบ POLIS ผลการตรวจสอบ พบว่า เด็กชายเยี่ยม มีมารดาและบิดาเป็นบุคคลสัญชาติไทย โดยบิดาไม่ใช่ผู้ถูกจับกุมแต่อย่างใด จึงได้ดำเนินการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี