วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ที่ สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.มานพ เสนากูล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด ผกก.สส.ภ.จ.เชียงราย พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องรวมกันแถลงข่าวคดีคนร้ายบุกจี้ร้านทองเยาวราชสินทวี สาขาตลาดป่าก่อเงี้ยว เขตเทศนครเชียงราย ชิงทองรูปพรรณไปน้ำหนักรวม 114 บาท โดยเหตุเกิดวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ได้นำผังการก่อเหตุเป็นผู้ต้องหาที่จับได้ 1 คนชื่อว่านายพิเชษฐ์ ซาวคำเขต อายุ 24 ปี ชาวจ.เชียงราย พร้อมภาพเส้นทางใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า M-SLAZ สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในการหลบหนีจากจุดเกิดเหตุไปยัง อ.แม่จัน อ.ดอยหลวง อ.เชียงแสน และอ.แม่สาย ก่อนหลบหนีไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
พล.ต.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้ให้ความร่วมมือและรับสารภาพว่าได้ร่วมกับกับเพื่อนชาวเมียนมาในการวางแผนก่อเหตุจี้ชิงทองดังกล่าว โดยหลังเก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศไปตามช่องทางด้านอ.เชียงแสน และไปอยู่ในฝั่งประเทศเมียนมา จากนั้นนำทองคำที่ได้นำไปขายในราคาประมาณ 18,000 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาท ดังนั้นปัจจุบันของกลางยังคงอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเพราะเรื่องหนี้สิน
ทั้งนี้นายพิเชษฐ์ ยังเคยก่อเหตุจี้ชิงทองที่ร้านทองสินทวี สาขา ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย เมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมาอีกด้วย โดยผู้ร่วมก่อเหตุเป็นชาวเมียนมาเช่นกัน แต่เป็นคนละคน กับที่ชิงทองร้านทองสินทวีสาขาป่าก่อเงี้ยว ดังนั้นผู้ต้องใน 2 คดีนี้จึงมี 3 คนโดยมีผู้ที่สั่งการอยู่ในนั้นร่วมก่อเหตุ 1 คน ปัจจุบันได้มีการประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อติดตามจับกุมนำมาดำเนินคดีในฝั่งไทยแล้ว
ทั้งนี้จากกรณีทั้ง 2 คดีดังกล่าวทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังขอแจ้งเตือนไปยังร้านทองต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบให้ติดลูกกรงป้องกันให้เรียบร้อยเพราะปัจจุบันในประเทศไทยมีการติดตั้งแล้วกว่า 90% แล้วเพราะทำให้เป็นจุดอ่อนให้คนร้ายใช้จู่โจมชิงทองได้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีจี้ชิงทองครั้งล่าสุดดังกล่าวเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหลังก่อเหตุนายพิเชษฐ์พร้อมพวกได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุซึ่งยืมมาจากเพื่อนคนไทยอีกคนหนึ่งไป จากนั้นนำไปฝากไว้ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ก่อนหลบหนีข้ามฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ไปและเมื่อกลับมายังฝั่งไทยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ก็ได้นำรถจักรยานยนต์ไปคืนให้เพื่อนแล้วเปลี่ยนมายืมรถยนต์กระบะอ้างว่าจะนำไปทำธุระเร่งด่วน แล้วขับรถไปตามถนนสาย อ.เมืองเชียงราย-อ.เทิง แต่มาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดจึงออกติดตามจับกุมได้บนถนนสายดังกล่าวพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย ได้ในที่สุดดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี