จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเพิ่มต่อเนื่อง! บอร์ดฯสั่งทบทวนประกาศคุณสมบัติ ป้องกันคนนอกแฝงยื่นขอปลูกกัญชา
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) มีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตร รายงานว่า ณ มิ.ย.64 มีวิสาหกิจที่จดทะเบียนและดำเนินการอยู่ 9.6 หมื่นแห่ง คิดเป็นจำนวนสมาชิกรวม 1.68 ล้านราย เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปี 62 ที่มี 8.6 หมื่นแห่ง และปี 63 เพิ่มเป็น 9.3 หมื่นแห่ง
ขณะเดียวกัน มีวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลแล้ว จำนวน 2.9 พันแห่ง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเพิ่มขึ้นมาก คือ การเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มช่องทางการตลาดแก่เกษตรกร เป็นโครงการภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
และสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลที่เปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชน สามารถปลูกพืชเสพติดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ เช่น กัญชา ภายใต้การกำกับของหน่วยงานรัฐตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ทำให้วิสาหกิจชุมชนต้องการเพิ่มกิจกรรมการปลูกพืชเสพติด รวมถึงคนทั่วไปต้องการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อปลูกพืชดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น คณะกรรมการฯ ได้มีการหารือกัน และมีข้อกังวลว่า อาจมีคนบางกลุ่มเข้าจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนแต่ดำเนินการข้ามพื้นที่ เป็นในลักษณะที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้วิสาหกิจชุมชน เป็นของประชาชนในพื้นที่ ใช้ทรัพยากรในการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความแข็งแรง เป็นชุมชนพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินของวิสาหกิจชุมชนเป็นไปเพื่อชุมชนนั้นๆ อย่างแท้จริง คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ทบทวนประกาศคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เรื่อง คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และการต่อทะเบียนของวิสาหกิจชุมชน ข้อ 4 และ ข้อ 7 ให้มีความชัดเจนมากขึ้น จะได้ไม่มีการเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือทำสิ่งที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยข้อ 4 กำหนดว่า "วิสาหกิจชุมชนจะต้องเป็นกิจการที่ดำเนินการหรือประสงค์ที่จะดำเนินการร่วมกันของกลุ่มคนในพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิสาหกิจชุมชน และ/หรือ รวมทั้งพื้นที่ข้างเคียงที่มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิสาหกิจชุมชนด้วย ซึ่งอาจอยู่ภายในตำบล อำเภอ จังหวัดเดียวกันหรือไม่ก็ได้ โดยสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนมีวิถีชีวิตร่วมกันและสามารถดำเนินกิจการร่วมกันได้ อาจเป็นนิติบุคคลหรือไม่เป็นนิติบุคคลก็ได้ จะต้องประกอบด้วยสมาชิกที่อยู่ร่วมกันในชุมชนไม่น้อยกว่า 7 คน โดยต้องไม่อยู่ในครอบครัวเดียวกันหรือไม่มีรายชื่อปรากฏในทะเบียนบ้านเดียวกัน" และ ข้อ 7 "วิสาหกิจชุมชนจะต้องดำเนินกิจการโดยไม่ขัดต่อกฎหมายความสงบเรียบร้อยและศีลและทำอันดีของประชาชน"
น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มว่า รัฐบาลมีเป้าหมายขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชนให้มีความมั่นคงเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ มีความพร้อมทางการค้า และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แนวทางในการดำเนินการที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย การส่งเสริมการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน การสร้างมูลค่าเพิ่มและนวัตกรรมให้กับสินค้าและบริการ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาด และการสร้างปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี