เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการขับเคลื่อนการดำเนินงานศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพื้นที่ 15 แห่ง ในรูปแบบการประชุมออนไลน์ ณ ห้องประชุม 5 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ตามนโยบายจัดการศึกษา ของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษา โดยการส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษา ให้มีความเป็นอิสระและคล่องตัว การกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน ให้มีระบบบริหารและการจัดการ รวมถึงการจัดโครงสร้างหน่วยงานให้เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จึงได้ปรับแนวทางการบริหารจัดการเพื่อให้มีความคล่องตัว และสอดคล้องกับบริบทพื้นที่และตอบสนองความต้องการกำลังคนของอุตสาหกรรมต่างๆ โดย สอศ.ได้จัดตั้งศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพื้นที่ขึ้น 15 แห่งทั่วประเทศ เพื่อวางแผนความร่วมมือ จัดทำฐานข้อมูลกำลังคน การดูแลอำนวยความสะดวก และสวัสดิการของผู้เรียนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีในเขตพื้นที่ต่างๆ และส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ความร่วมมือกับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพทั้งทักษะความสามารถ และคุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งยกระดับคุณภาพกำลังคนในกลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษา รวมถึงกำลังคนในสถานประกอบการให้มีสมรรถนะในมิติของวิชาชีพสูงขึ้น
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพื้นที่ เปรียบเสมือนตัวกลางที่จะเชื่อมโยงระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษา หรือสถาบันการอาชีวศึกษา สถานประกอบการ และ สอศ.ในการประสานการพัฒนากำลังคน โดยศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพื้นที่แบ่งเป็น 4 ฝ่าย ได้แก่ 1. ฝ่ายอำนวยการ ดำเนินการสำรวจข้อมูลความต้องการรับนักเรียน นักศึกษา เข้าฝึกงานและฝึกอาชีพของสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบ และการติดตาม ประเมินผล และรายงานผล 2. ฝ่ายพัฒนาวิชาการทวิภาคี จะจัดทำแผนพัฒนาการฝึกงาน และอบรมครูนิเทศก์และครูฝึกในพื้นที่รับผิดชอบ 3. ฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี จะดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีให้กับสถานประกอบการในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และ 4. ฝ่ายสวัสดิภาพและความปลอดภัย จะดูแลและเตรียมความพร้อมผู้เรียนในการสร้างความตระหนัก และความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยในการฝึกงาน และฝึกอาชีพทั้งในสถานศึกษาและในสถานประกอบการ ซึ่ง สอศ.ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพื้นที่ และอยู่ระหว่างการจัดทำแผนดำเนินการบริหารจัดการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องต่อไป
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวต่อไปว่า สำหรับศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพื้นที่ จัดตั้งขึ้นในสถานศึกษา จำนวน 15 แห่ง ได้แก่ 1.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคตะวันออก 1 โดยวิทยาลัยเทคนิคปราจีนเป็นศูนย์หลัก 2.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคตะวันออก 2 มีวิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย จ.ระยอง เป็นศูนย์หลัก 3.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคกลาง 1 มีวิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์หลัก 4.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคกลาง 2 มีวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี เป็นศูนย์หลัก 5.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคเหนือ 1 มีวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่เป็นศูนย์หลัก 6.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคเหนือ 2 มีวิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์เป็นศูนย์หลัก 7.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 มีวิทยาลัยเทคนิคอุดรธานีเป็นศูนย์หลัก
8.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 มีวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมาเป็นศูนย์หลัก 9.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 มีวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานีเป็นศูนย์หลัก 10.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคใต้ 1 มีวิทยาลัยเทคนิคสุราษฏร์ธานีเป็นศูนย์หลัก 11.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคใต้ 2 มีวิทยาลัยเทคนิคภูเก็ตเป็นศูนย์หลัก 12.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีภาคใต้ 3 มีวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นศูนย์หลัก 13.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีปริมณฑลภาค 1 มีวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานีเป็นศูนย์หลัก 14.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีปริมณฑลภาค 2 มีวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการเป็นศูนย์หลัก และ 15.ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีกรุงเทพมหานคร มีวิทยาลัยบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวกรุงเทพเป็นศูนย์หลัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี