ในที่สุด วันประชุมคณะมนตรีแอปเตอร์ประจำปี 2021 ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพจัด ก็ถูกกำหนดขึ้นใหม่ หลังจากที่ได้มีการประกาศเลื่อนมาแล้วครั้งหนึ่งจากวันที่ 30 มีนาคม ให้เป็นวันที่ 28 พฤษภาคม ทั้งนี้มีการซ้อมใหญ่เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนล่วงหน้า 1 วัน คือ ในวันที่ 27 พฤษภาคม
การจัดประชุมครั้งนี้ เป็นแบบ virtual หรือการประชุมทางไกล นั่งอยู่ประเทศใครประเทศมัน ไม่ต้องเดินทางไปที่ประเทศฟิลิปปินส์เจ้าภาพ พูดแล้วก็ยังนึกเสียดายไม่หาย เพราะอย่างที่เคยเล่าไปแล้วว่า ฟิลิปปินส์เจ้าภาพปีนี้กำหนดไปจัดประชุมที่เมืองโบโฮล ตอนกลางของประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังระดับโลก
หลังจากที่ไปประชุมครั้งก่อนแล้วเห็นเมียนมาเจ้าภาพจัดเต็ม โดยใช้เมืองพุกามเป็นสถานที่ประชุม ก็เลยต้องการที่จะจัดเต็มที่เช่นเดียวกัน ความจริงในเรื่องประชุมขององค์การระหว่างประเทศในลักษณะนี้ จะว่าไปก็กึ่งๆ จะเหมือนกับการพักผ่อนหย่อนใจนั่นแหละครับ คือ หลังการประชุมแบบเคร่งเครียดในห้องประชุมแล้ว ช่วงเย็น หรือช่วงดูงานผู้เข้าประชุมก็จะได้มีโอกาสจัดเลี้ยงสังสรรค์และเดินทางไปเปิดหูเปิดตาซึ่งแน่ละ เจ้าภาพผู้จัดการประชุมส่วนมากก็จะกำหนดให้ไปชมสิ่งที่เป็นสุดยอดของประเทศเขาเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ทุกคนรวมถึงเป็นการโฆษณาแหล่งท่องเที่ยวไปในตัวด้วย แต่เท่าที่ผมสังเกตมาโดยตลอดในโอกาสที่ได้เคยไปประชุม สัมมนาในระดับอินเตอร์มามากพอสมควร เรื่องของการเอ็นเตอร์เทนแขกนี้ สำหรับประเทศที่ร่ำรวยหรือเจริญแล้ว หรือรายการที่ได้สปอนเซอร์จากประเทศเหล่านี้กลับไม่ค่อยเอาจริงเอาจังมากนัก ต่างจากประเทศในแถบเอเชีย หรือ อาเซียนของเรายกตัวอย่างครั้งหนึ่งประเทศญี่ปุ่นให้ทุนประเทศแซมเบีย แอฟริกาไปจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการแล้วก็เชิญผู้แทนกรมการข้าวไปบรรยายเป็นกรณีตัวอย่างด้านพัฒนาข้าวซึ่งผู้ใหญ่ได้มอบหมายผมไป แม้จัดที่ประเทศแซมเบีย แต่ผู้จัด (ญี่ปุ่น) ก็ไม่เคยสนใจเลยว่าจะมีการพาเยี่ยมชมจุดหมายสำคัญๆ ตรงกันข้าม กลับว่ากันแต่ในห้องในโรงแรมอยู่เกือบทั้งสัปดาห์ ทั้งๆ ที่ประเทศนี้มีน้ำตกที่ชื่อเสียงดังระดับโลก คือ น้ำตกวิกตอเรีย ตอนแรกก่อนไปผมหาข้อมูลแล้ว และหวังว่าวันว่างผมจะขอไปเยี่ยมชมสักครั้งเป็นขวัญตา แต่ในที่สุดก็ไม่มีโอกาสไปเยี่ยมน้ำตกดังที่ว่านี้ ทั้งที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่ประชุมสัมมนามากนัก
ที่ผมแยกแยะความแตกต่างระหว่างประเทศพัฒนามาก กับประเทศพัฒนาน้อยข้างต้น ขอยืนยันว่าค่อนข้างจะเป็นไปตามนั้น เพราะในประเทศสิงคโปร์ที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับอาเซียน หรืออาเซียนบวกสาม ก็เป็นเช่นเดียวกัน การจัดของเขาจะทำแบบง่ายๆ พิธีรีตองก็มักจะไม่มีให้เห็น การจัดเลี้ยง Welcome party หรือ Farewell party ก็ไม่เคยเน้น คือถ้าจะมีก็มีแบบง่ายๆ หรือไม่มีเลย ที่ประเทศบรูไนดารุสซาลามก็ไม่ต่างกัน ยิ่งเป็นประเทศนับถือศาสนาอิสลามยิ่งแล้ว เพราะการจัดเลี้ยงอาหารจะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใดๆ ทั้งสิ้น ตรงกันข้ามจากประเทศอาเซียนที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ เช่น เมียนมาปีที่แล้วที่ลงทุนไปจัดประชุมที่เมืองพุกาม เมืองแห่งมรดกโลกเลยทีเดียว ของไทยก็เคยจัดโดยไปจัดที่จังหวัดเชียงใหม่ และเมืองพัทยา ที่ใครๆ ก็รู้จักกันดีส่วนกัมพูชาก็ไม่พ้นเมืองเสียมเรียบ ที่มีปราสาทหินนครวัดนครธมตั้งอยู่ สำหรับเวียดนาม เมืองเว้ อดีตเมืองหลวงเก่า ขณะที่ สปป.ลาวทุกคนก็เรียกร้องอยากจะให้ไปจัดที่เมืองหลวงพระบาง อันโด่งดังเช่นเดียวกัน
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี