ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศผ่อนผันยกเลิกคำสั่งที่ คกก.โรคติดต่อฯ ที่ 3674/2564 ข้อ 4 ห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่ 22.00-04.00 น.เป็นออกจากเคหะสถานได้ตั้งแต่เวลา 04.01-20.00 น.
วันนี้ 31 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคืนที่ผ่านมา นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3678/2564 เรื่อง กำหนดมาตรการเพิ่มเติมคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3674/2564 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564 เรื่อง ปิดอำเภอในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
อนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3674/2564 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564 เรื่อง ปีดอำเภอในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามข้อ 4 ที่ระบุว่า “ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 น. ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น” ทั้งนี้ ผู้ใดมีความจำเป็นมีเหตุฉุกเฉินต้องออกนอกเคหสถานให้ขออนุญาตจากพนักงานควบคุมโรคติดต่ออำเภอ (นายอำเภอ) หรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ นั้น
เนื่องจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาแล้วเห็นว่ามาตรการดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (1) และ (7) มาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบข้อ 2 ข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 9 (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี กำหนดให้ประชาชนสามารถเดินทางไปปฏิบัติภารกิจได้ตามปกติ ตั้งแต่เวลา 04.01 น. ถึงเวลา 20.00 น.โดยแสดงเหตุผลความจำเป็นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดสกัด หรือจุดคัดกรอง ในที่ตั้งของแต่ละเขตอำเภอท้องที่นั้น
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ตามประกาศข้างต้น ประกอบด้วย ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี อ.สังขละบุรีทั้งอำเภอ อ.ทองผาภูมิ ทั้งอำเภอ และ อ.ไทรโยค ทั้งอำเภอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี