ยึด‘รถตู้’ติดสติกเกอร์ตำรวจ ลอบบรรทุกขนไม้ท่อนเถื่อน
2 สิงหาคม 2564 คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ภายใต้การนำของ นายบัณฑิต ฉิมชาติ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ (สปป.3) เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามสายที่ 2 ส่วนป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้นาหมื่น และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวนหนึ่ง ร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่ท่อนจำนวน 7 ท่อน คิดเป็นค่าเสียหายที่รัฐพึงได้รับ 32,900 บาท พร้อมรถยนต์ (รถตู้) ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน เมื่อคืนวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กล่าวหาว่ากระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 ฐานร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 48 ประกอบมาตรา 73 มีไม้อันยังมิได้แปรรูป(ไม้ประดู่ท่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต , ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา14 ประกอบมาตรา31 ฐานร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 106/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ข้อที่ 2 ข้อหาฐานมีไม้กระยาเลยท่อน (ไม้ประดู่) ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต, ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา19 (2) ประกอบมาตรา 42 ฐานร่วมกันเก็บหานำออกไปทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้(ไม้ประดู่ท่อน) หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันออกตรวจลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในพื้นที่รับผิดชอบท้องที่บ้านประมงปากนาย หมู่ 17 ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน จากการสืบทราบข่าวว่า มีกระบวนการลักลอบทำไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ บริเวณป่ารอยต่ออุทยานแห่งชาติศรีน่าน อุทยานแห่งชาติขุนสถานและอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน เมื่อลักลอบทำไม้แล้วเสร็จจะชักลากไม้บรรทุกด้วยเรือยนต์หางยาวมาส่งบริเวณท่าโปะข้ามฟาก(อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน-อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์) ท้องที่บ้านประมงปากนาย หมู่ที่ 17 ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน
เมื่อมาถึงบริเวณที่ได้รับแจ้งได้จัดกำลังลงตรวจสอบทางน้ำและเดินตรวจสอบบริเวณท่าโป๊ะ ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ตรวจมาถึงบริเวณ ที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นรถตู้และกลุ่มคนประกอบด้วยผู้ชายและผู้หญิงประมาณ 8-10 คน รวมกลุ่มนั่งดื่มเครื่องดื่มอยู่ห่าง จากรถตู้ประมาณ 2-3 เมตร หน.ชุดจึงได้สั่งการให้คณะเจ้าหน้าที่แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขออนุญาตตรวจสอบ กลุ่มคนดังกล่าว เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่จึงจะพยายามเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ตะโกนบอกให้อยู่ในความสงบ อย่าได้คิดขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยได้มีการพูดจาโต้ตอบกับกลุ่มคนดังกล่าวในการปฏิบัติหน้าที่ได้บันทึกภาพและวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่จำได้ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมี นายอิทธิพล ได้เข้ามาพูดจาข่มขู่เจ้าหน้าที่และนายหนึ่งไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ได้เข้ามาใช้เท้าถีบ นายเอกลักษณ์ ทาอิน พนักงานพิทักษ์ป่าประจำอุทยานแห่งชาติศรีน่าน คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ป้องกันตัวและระดมกำลังเข้าช่วยเหลือเมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่มาจำนวนมาก จึงได้ใช้อาศัยความชุลมุนวิ่งลงเรือยนต์หางยาว ซึ่งจอดรออยู่จำนวน 4 ลำหลบหนีไปทางด้านทิศใต้ของแม่น้ำน่าน
คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้พยายามติดตามแต่ไม่ทัน สันนิษฐานว่ากลุ่มคนที่ประกอบด้วยผู้ชายและผู้หญิงดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชักลากไม้ที่บรรทุกอยู่ภายในรถตู้ ชุดจับกุมจึงได้สั่งการให้ตรวจสอบรถตู้คันดังกล่าว พบว่าเป็นรถตู้ที่ใช้ปฏิบัติในราชการตำรวจของสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน มีโลโก้สำนักงานตำรวจแห่งชาติติดที่ประตูด้านคนขับ และด้านผู้โดยสารทั้ง 2 ด้าน ด้านในรถพบไม้ท่อนจำนวน หนึ่งบรรทุกอยู่ภายในห้องโดยสารโดยได้ถอดเบาะออกทั้งหมดคงเหลือเพียงแค่ที่นั่งของคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า สันนิษฐานได้ว่า การถอดเบาะดังกล่าวไม่ได้ถูกถอดมาด้วยความบังเอิญแต่ถูกถอดออกมาเพื่อชักลากไม้ท่อนที่บรรทุกอยู่ภายในรถ จึงได้ร่วมกันตรวจสอบโดยละเอียด พบว่าเป็นไม้กระยาเลยท่อนที่บรรทุกอยู่ภายในรถ มีลักษณะใหม่ไม่มีร่องรอยการเป็นเครื่องมือเครื่องใช้มาก่อนแต่อย่างใดและไม่พบร่องรอยดวงตาของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้บริเวณหน้าตัดของไม้กระยาเลยท่อน (ไม้ประดู่) แต่อย่างใด
คณะเจ้าหน้าที่ได้พยายามส่งเสียงเรียกหาเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวหรือผู้ที่ซึ่งจะมาแสดงตนเป็นเจ้าของ ปรากฏว่าไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดเข้ามาแสดงตน จึงได้ลงความเห็นร่วมกันแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ พุทธศักราช 2504 เนื่องจากไม้ประดู่ม่อนเป็นประเภท ก พื้นที่ที่พบไม้ประดู่อยู่นั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ และอุทยานฯชาติศรีน่าน จึงเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จึงได้ร่วมกันตรวจยึดไม้กระยาเลยท่อน (ไม้ประดู่) โดยการตรวจนับวัดขนาดได้ไม้กระยาเลยท่อน (ไม้ประดู่ จำนวน 7 ท่อนและใช้ดวงตา ตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้ประดู่ท่อนทั้ง 2 ด้านทุกท่อน พร้อมตรวจยึดรถยนต์ (รถตู้) คันดังกล่าวไว้เป็นของทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาหมื่น เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี