นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ในคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับในข้อหา กระทำความผิดร่วมกันเป็นอั้งยี่, ซ่องโจร, ข่มขืนใจ กรณีอุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวันรีดค่าไถ่ 90 ล้านบาท บริเวณคอนโดย่าน สน.ทองหล่อ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE มารับตัวเพื่อไปสอบปากคำ ซึ่งคดีนี้มีการแจ้งความและดำเนินการจับกุมเมื่อเดือนมิถุนายน ได้ผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งตำรวจ โดยศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีไปแล้วทั้งหมด 15 คน มีการขยายผลจนทราบว่า นายสันธนะ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และปรากฏตัวในจุดเกิดเหตุ
ด้านนายสันธนะ นายสันธนะ กล่าวทั้งน้ำตาและมีท่าทีคล้ายคนเหนื่อยหอบตลอดเวลาก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า ตัวเองเข้ามามอบตัว หลังทราบว่าตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมองว่ากระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นการกลั่นแกล้ง เนื่องจากว่า ตัวเอง เพิ่งหายจากโควิด-19 และอยู่ระหว่างกระบวนการกักตัวอีก 14 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันศุกร์นี้ แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่รอและพยายามยัดเยียดข้อหาให้กับตัวเอง โดยยอมรับว่าตัวเองรู้จักกลุ่มชาวต่างชาติ ทั้งหมดจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้ จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเหมาะสมหรือไม่
นอกจากนี้นายสันธนะ ยังระบุว่าตัวเองเคยมายื่นหนังสือขอเลื่อนการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ ไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งตำรวจก็ยังออกหมายจับในวันที่ตัวเองยังกักตัวไม่ครบ โดยหลังจากนี้ ตัวเองจะใช้เงินส่วนตัวในการประกันตัวออกมาเพื่อให้มีเสรีภาพ และจะใช้สิทธิฟ้องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และหัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ที่ทำเรื่องขออนุมัติหมายจับด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี