“พระอาจารย์พบโชค” เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง รับซื้อ “สับปะรดภูแล” จากชาวสวนแล้วกว่า 600 ตัน แจกให้ทุกคนในประเทศไทย พร้อมเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยน “มังคุด” ของภาคใต้

6 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระไพศาลประชาทร วิ. (พระอาจารย์พบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย ได้ใช้ลานด้านหลังอุโบสถวัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นพื้นที่รับซื้อสับปะรดภูแลจากเกษตรกรในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย หลังจากที่เกษตรกรไม่รู้จะนำไปขายที่ไหน เนื่องจากไม่มีการรับซื้อจากท้องตลาดทั่วไป พ่อค้าแม่ค้าคนกลางก็ไม่มารับซื้อ ส่งไปขายประเทศจีนก็ไม่ได้ เพราะสถานการณ์โควิด19 ทำให้ขณะนี้สับปะรดหลายร้อยตัน ถึงเวลาเก็บเกี่ยว หากไม่ตัดออกขายก็จะเน่าคาสวนเสียหายทั้งหมด จึงได้ขอให้พระอาจารย์พบโชค ช่วยรับซื้อ โดยทางวัดห้วยปลากั้ง ได้เปิดรับซื้อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรมาตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 มาถึงวันนี้รับซื้อไปแล้วมากกว่า 660 ตัน หรือเฉลี่ยวันละ 60 ตัน และรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 2 บาท ซึ่งเกษตรกรทุกคนพร้อมขายในราคานี้ เพราะดีกว่าไม่ได้ขายและปล่อยเน่าเสีย จากที่ปีที่ผ่านขายได้ในกิโลกรัมละ 13-16 บาท

พระไพศาลประชาทร วิ.(พระอาจารย์พบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง เล่าว่า การรับซื้อถือว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรผู้ปลูกสับปะรดภูแล โดยนำเงินที่ได้จากการมาทำบุญของทุกคน ที่มาทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง มาซื้อ จากนั้นก็นำไปส่งยังปลายทาง ในหลายจังหวัด เพื่อให้ผู้ที่เดือดร้อนจากโควิด19 รวมทั้งให้โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม ต่าง ๆ ซึ่งเป็นการส่งไปแจกจ่ายฟรี แต่อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนการรับซื้อบางอย่าง นั้นคือ หากท่านใดอยากรับประทานสับปะรดภูแล ในราคากิโลกรัมละ 2 บาท ก็สามารถสั่งซื้อผ่าน วิสาหกิจชุมชนพบโชค ได้ ก็จะมีการจัดส่งให้ฟรีเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นการช่วยกัน ที่สำคัญได้ช่วยเหลือกลุ่มรถขนส่งผลไม้ให้มีรายได้ด้วย

ทั้งนี้ ทางพระอาจารย์พบโชค ก็มีแนวคิดที่จะอยากแลกเปลี่ยนสินค้ากับทางภาคใต้ คือ มังคุด ที่ราคาตกต่ำ ก็สามารถแลกเปลี่ยนกับสับปะรดภูแล เพื่อนำไปขายได้ คือ สินค้าเกษตรจากเหนือสู่ใต้ ใต้สู่เหนือ เพราะรถขนส่งเมื่อนำสับปะรดไปส่งตามจังหวัดต่างๆ เมื่อกลับมาก็จะได้รับสินค้าเกษตรในพื้นที่นั้นกลับมาด้วย โดยหากพื้นที่ไหนต้องการดำเนินการ สามารถติดต่อทางhttps://www.facebook.com/phrapobchok เพื่อสอบถามการแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้ เพราะถือว่าได้ช่วยเกษตรกรทั้งประเทศไปพร้อมกัน

ขณะที่ชาวสวนเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดภูแล ที่นำมาขายให้กับวัดห้วยปลากั้ง เปิดเผยว่า ชาวสวนทุกคนดีใจมากที่มีที่ขาย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ราคาที่ต้องการก็ตาม ซึ่งก็ดีกว่าไม่ได้ขายเลย และปล่อยให้สับปะรดภูแล เน่าเสีย จึงต้องกราบพระอาจารย์พบโชค ที่เมตตากับเกษตรกร