ศาลแพ่งยกฟ้องคดี 2 นักข่าวฟ้อง"บิ๊กปั๊ด-น.1-ผบก.อคฝ." ถูกยิงในการชุมนุม เรียกค่าเสียหายกว่า 1.4 ล้าน เมื่อ 18 ก.ค.64 ศาลชี้เป็น จนท.รัฐได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ความลับผิดทางละเมิด แต่ให้รับฟ้องเฉพาะ สตช.ขณะที่วันนี้ 2 ผู้เสียหายยังยื่นศาลแพ่งขอคุ้มครอง ตร.สลายม็อบ 10 ส.ค.ไม่ระมัดระวังตามคำสั่งศาล
กรณีที่ นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ ผู้สื่อข่าวจาก PLUS SEVEN และ นายชาญณรงค์ เอื้ออุดมโชติ ช่างภาพประจำสำนักข่าว The MATTER ที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางที่ตำรวจยิงใส่ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่ทั้งสองไปทำข่าวการชุมนุม เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2564 ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน และมีคำสั่งขอคุ้มครองชั่วคราว คดีหมายเลขดำที่ พ 3683/2564 ระหว่างนายธนาพงศ์ กับพวกรวม 2 คน (โจทก์) กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ผบ.ตร. , ผบช.น.และ ผบก.อคฝ.กับพวกรวม 4 คน
ต่อมาวันที่ 10 ส.ค.ศาลได้มีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแก่งชาติ จำเลยที่ 1 ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุม และสลายการชุมนุม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของโจทก์ทั้งสอง และสื่อมวลชน ภายใต้หลักเกณฑ์ และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน
ความคืบหน้าเรื่องนี้นั้น เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก น.ส.จันร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมทีมงาน เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกจำเลยที่ 1 หรือตัวแทนมาไต่สวน เนื่องจากไม่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่จากเหตุการณ์การสลายชุมนุม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ส.ค.บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ตามคำสั่งศาล โดยเห็นว่า ศาลมีคำสั่งออกมาแล้ว ซึ่งจำเลยที่ 1 ก็รับหมายโดยชอบแล้วเมื่อวันที่ 10 ส.ค.แต่การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ภายใต้การบังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 ยังเป็นรูปแบบเดิม มีสื่อมวลชนอีก 2 ราย ถูกยิงด้วยกระสุนยาง ถึงจะไม่ได้รับบาดเจ็บมาก แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ระมัดระวัง ไม่เป็นไปตามคำสั่งศาล
อย่างไรก็ตาม วันนี้ศาลแพ่งยังได้มีคำสั่งในคดี นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ ผู้สื่อข่าว PLUS SEVEN และ นายชาญณรงค์ เอื้ออุดมโชติ ช่างภาพประจำสำนักข่าว The MATTER ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกตำรวจยิงกระสุนยางเข้าใส่ระหว่างไปทำข่าวการชุมนุม เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2564 ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) , ผบ.ตร. , ผบช.น.และ ผบก.อคฝ.กับพวกรวม 4 คน เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจำนวนทุนทรัพย์ 1,412,000 บาท
โดยศาลมีคำสั่งรับฟ้องเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จำเลยที่ 1 ในฐานะหน่วยงานของรัฐ แต่เนื่องจากในสถานการณ์ช่วงโควิด-19 ระบาดรุนแรง ศาลจึงยังไม่สามารถกำหนดวันนัดได้ ส่วนจำเลยที่ 2 - 4 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้กระทำการโดยปฎิบัติหน้าที่ จึงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ความลับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 5 วรรคหนึ่ง ดังนั้น โจทก์ทั้งสองจะฟ้องให้รับผิดทางละเมิดทางแพ่งหาได้ไม่ พิพากษายกฟ้องในส่วนของจำเลยที่ 2 - 4
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี