วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ช่วงนี้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ค่อนข้างรุนแรง หน่วยงานราชการหลายแห่ง ต้องให้พนักงานทำงานที่บ้าน(WFH ) ตามนโยบายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้การทำงานสะดุด จำเป็นจะต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้
การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เช่นกัน “ณกรณ์ ตรรกวิรพัท” ผู้ว่าการ กยท. บอกว่า กยท.มีนโยบายที่จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการบริหารงานมากขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา กยท.ได้นำระบบรับชำระค่าธรรมเนียมส่งยางออกนอกราชอาณาจักรทางอิเล็กทรอนิกส์ แบบ Single Form (e-SFR) และระบบรับคำขอใบรับรองคุณภาพยาง (e-QC) ทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ National Single Window (NSW)
ระบบดังกล่าว เป็นระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจ สำหรับการนำเข้า-ส่งออก และโลจิสติกส์ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และยุทธศาสตร์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการสร้างความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ด้านขนส่งและเครือข่ายโลจิสติกส์ ตามเส้นทางยุทธศาสตร์ และยังสอดคล้องกับนโยบาย THAILAND 4.0 ในด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการภาครัฐ (Service Reform)
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) มีนโยบายให้ปรับลดขั้นตอนกระบวนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก สินค้ายุทธศาสตร์ ได้แก่ น้ำตาล ข้าว ยางพารา สินค้า แช่แข็ง และวัตถุอันตราย ผ่านระบบ NSW เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในการส่งยางออกฯ ลดปริมาณเอกสาร ขั้นตอนและระยะเวลาในการยื่นขอใบรับรองคุณภาพยาง และใบรับค่าธรรมเนียมส่งยางออกฯ ให้รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับระบบรับคำขอใบอนุญาตผ่านด่านศุลกากร ในอนาคต โดยการบันทึกรายการครั้งเดียว ลดความผิดพลาด และความซ้ำซ้อนของข้อมูล รวมทั้งเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการส่งยางออกนอกราชอาณาจักรที่ต้องใช้ข้อมูลร่วมกันได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากการบันทึกรายการครั้งเดียว
“เพื่อให้เป็นไปตามมติ กบส. ดังกล่าว กยท. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้า ยางพาราโดยมีหน้าที่จัดเก็บค่าธรรมเนียมการส่งยางออกฯ และให้บริการวิเคราะห์คุณภาพยางแก่ภาครัฐและเอกชน จึงได้บูรณาการกับกรมวิชาการเกษตร และกรมศุลกากร ร่วมกันดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ และออกแบบระบบรับชำระค่าธรรมเนียมส่งยางออกฯ ให้รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับระบบรับคำขอใบอนุญาตผ่านด่านศุลกากร แบบ Single Form และ ระบบรับคำขอใบรับรองคุณภาพยาง ผ่านระบบ NSW” ผู้ว่าการ กยท. กล่าว
สำหรับระบบรับชำระค่าธรรมเนียมส่งยางออกฯ ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-SFR) กยท.จะเริ่มนำมาใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ยกเว้นผู้ประกอบการที่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ และผู้ประกอบการที่ชำระค่าธรรมเนียมประเภทยางผสมสารเคมี ให้ชำระผ่านทางระบบ e-CESS ตามเดิม ส่วนระบบรับคำขอใบรับรองคุณภาพยางทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-QC) กยท.จะนำเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2565
แม้การนำระบบรับชำระค่าธรรมเนียมส่งยางออกฯ ทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวมาใช้ จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการระบาดของ COVID-19 แต่ก็สามารถช่วยให้การทำงานแบบเว้นระยะห่างได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ทำให้การส่งออกสะดุด สามารถช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในทางอ้อมได้
หากผู้ส่งออกยางมีข้อสงสัยใดๆ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ โทร 0-2433-2222 ต่อ 313,319 หรือ e-mail : ecess@raot.mail.go.th รับรองได้ความกระจ่างแน่นอน
รัฐศักดิ์ พลสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี