จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงมากขึ้นส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด–19 จำนวนมากขึ้น และมีการแพร่กระจายเป็นวงกว้างและรวดเร็ว ความหวังที่จะลดการติดเชื้อได้ คือวัคซีนและยารักษาโรคที่จะสามารถหยุดยั้ง ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และลดความรุนแรงให้แก่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด–19 ได้ซึ่งหนึ่งในความหวังคือการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาไทยจากการใช้พืชสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร ยับยั้งเชื้อไวรัส และมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส หากนำมาใช้ร่วมรักษากับการแพทย์แผนปัจจุบันในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด–19 ที่มีระดับความรุนแรงน้อย (ไม่มีภาวะปอดอักเสบ) ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นตามลำดับ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมีนโยบายขับเคลื่อนการปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบในการพัฒนาเป็นยาต้านไวรัสโควิด–19 ให้กับกรมแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข โดยนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร ขึ้นในสถาบันเกษตรกร เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ขยายพื้นที่ปลูกฟ้าทะลายโจร โดยมีกรมวิชาการเกษตรสนับสนุนพันธุ์ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลค์สูง ให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และอนาคตอาจจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขุนเกษตราได้มีโอกาสไปร่วมงาน Kick Off เปิดโครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร (ฟ้าทะลายโจร) สู้ภัยโควิด-19 ณ แปลงปลูกฟ้าทะลายโจร ของสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด ตำบลระบำอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน และมี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งท่านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้ข้อมูลกับ ขุนเกษตรา ว่า สำหรับในการจัดทำโครงการฯ ในครั้งนี้ มีเป้าหมายคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมจำนวน 500 ไร่ มีเป้าหมายในปี 2564 จำนวน 100 ไร่ และปี 2565 จำนวน 400 ไร่ ในพื้นที่ครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยจะมีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ปลูกฟ้าทะลายโจรเพื่อแปรรูปป้อนเข้าสู่ตลาด โดยได้กำหนดวิธีการดำเนินงานตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แต่อย่างไรก็ดีในเบื้องต้น กรมส่งเสริมสหกรณ์จะดำเนินการปลูกเพื่อนำร่องโครงการฯ ใน 8 สหกรณ์ พื้นที่ 80 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี พิจิตร และนครสวรรค์ โดยให้สหกรณ์ทั้ง 8 แห่ง เป็นศูนย์กลางการผลิตต้นกล้าเพื่อส่งให้กับสหกรณ์เครือข่ายในการปลูกต่อไป ภายใต้ความร่วมมือจากกรมวิชาการเกษตรในการจัดหาพันธุ์ที่ดี ได้คุณภาพมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันมีสถาบันเกษตรกรแจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการปลูกแล้ว จำนวน 11 จังหวัด 52 สหกรณ์ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงตลาดในการรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกสหกรณ์ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการแปรรูป ในลักษณะการตลาดนำการผลิต เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกสหกรณ์ ว่าจะมีตลาดรับซื้อผลผลิตที่แน่นอน ภายใต้คุณภาพและมาตรฐานที่ตลาดต้องการ
ท่านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ยังบอกอีกว่า สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการปลูกฟ้าทะลายโจร จะกระจายอยู่ทุกภาค ซึ่งหลังจากได้สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการแล้ว กรมฯจะชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ และเน้นย้ำให้สหกรณ์ผลิตพืชสมุนไพรปลอดสารเคมี และหากสหกรณ์ที่เข้าโครงการต้องการเงินทุนเพื่อส่งเสริมอาชีพการปลูกฟ้าทะลายโจรให้กับสมาชิก กรมจะจัดเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 เพื่อใช้ในการตั้งต้นเข้าโครงการ ซึ่งกรมฯคาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริมให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ดี เนื่องจากเป็นสมุนไพรคุณภาพ และคาดหวังว่าหากสหกรณ์สามารถผลิตได้คุณภาพ อนาคตหลายสหกรณ์จะเป็นแหล่งผลิตสมุนไพรปลอดสารได้อีกจำนวนมาก และจะสามารถเป็นทั้งแหล่งผลิตและแหล่งท่องเที่ยว ส่งผลต่อรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อไป
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี