เกาะติดสถานการณ์ฝน5จว.ลุ่มน้ำโขง  ระดมเครื่องจักร/กำลังพลประจำจุดเสี่ยง

เกาะติดสถานการณ์ฝน5จว.ลุ่มน้ำโขง ระดมเครื่องจักร/กำลังพลประจำจุดเสี่ยง

วันพฤหัสบดี ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

กรมชลประทานตรวจความพร้อมรับมือฤดูฝน 5 จังหวัดอีสานลุ่มน้ำโขง สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร และบุคลากร โดยเฉพาะพื้นที่แอ่งกระทะบริเวณท้ายน้ำที่จ.อุบลราชธานี มั่นใจหากสถานการณ์คล้ายปี 2551 จะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ส่วนการปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนจิ่นหงไม่มีผลกระทบใดๆ

นายจักริน ประเสริฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ 5 จังหวัดลุ่มน้ำโขงประกอบด้วยจังหวัดนครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะคล้ายปี 2551 คือ มีค่าฝนเฉลี่ยในฤดูฝนประมาณ 1,500 มิลลิเมตร(มม.) และไม่เกิดปรากฏการณ์ภัยทางน้ำ โดยขณะนี้ปริมาณฝนสะสมของ 5 จังหวัดดังกล่าวอยู่ที่ 790 มม. ยังเหลือเวลาอีก 3 เดือนจึงจะสิ้นสุดฤดูฝน ซึ่งนับจากนี้ไปหากปริมาณฝนตกอยู่ระหว่าง 500-750 มม. นับได้ว่าเหตุการณ์เป็นปกติ


“ฝนจะเริ่มตกชุกมากในเดือนสิงหาคม-กันยายน จุดสำคัญที่กรมชลประทานเน้นหนักเป็นสำคัญคือ บริเวณท้ายน้ำที่จังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ หากเกิดฝนตกลงมาหนักในคราวเดียวจะทำให้น้ำท่วมขังได้เร็วจึงมีการระดมสรรพกำลังทั้งด้านเครื่องมือและเจ้าหน้าที่ เตรียมพร้อมทำการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของราษฎร พื้นที่ทำกิน หรือพื้นที่สาธารณะเป็นการเฉพาะไว้รองรับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นแล้ว เช่น เครื่องสูบน้ำจำนวน 60 เครื่อง รถแบ๊กโฮเปิดทางน้ำ 7 คัน เครื่องผลักดันน้ำที่พร้อมเข้าปฏิบัติการในพื้นที่เกิดภัยภายใน 24 ชม. จำนวน 390 เครื่อง กระสอบทรายยักษ์ กล่องเกเบี้ยน รถขุดตีนตะขาบ เป็นต้น” นายจักรินกล่าว

นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบบำรุงรักษาอาคารชลประทาน ประตูระบายน้ำคูคลอง และอ่างเก็บน้ำทุกแห่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน รวมถึงมาตรการการดึงน้ำส่วนเกินออกไปเก็บไว้ที่แก้มลิงต่าง ๆ เอาไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด

ส่วนกรณีการปรับระดับการระบายน้ำของเขื่อนจิ่นหง ประเทศจีน จากเดิม 900-1,300 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที เป็น 700 ลบ.ม.ต่อวินาทีตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลง 50 เซนติเมตรนั้น จะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อพื้นที่ทั้ง 5 จังหวัด เนื่องจากอยู่ในช่วงฝนตกชุกอยู่แล้ว โดยในปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำโขงต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 6 เมตร

สำหรับสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ 5 จังหวัด ขณะนี้ยังสามารถรับน้ำได้อีกมากกว่า 1,000 ล้านลบ.ม. โดยอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธรขณะนี้มีปริมาณน้ำประมาณ 1,100 ล้านลบ.ม. รับน้ำได้อีก 790 ล้านลบ.ม. อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 31 แห่ง มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมกันประมาณ 200 ล้านลบ.ม. รับน้ำได้อีก 130 ล้านลบ.ม. นอกจากนี้ในลำน้ำชีในส่วนสำนักชลประทานที่ 7 รับผิดชอบ ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 130 ล้านลบ.ม. จากความจุ 300 ล้านลบ.ม. ระดับน้ำในลำน้ำอื่น ๆ อยู่ที่ 40% โดยเฉลี่ย ถือว่าสถานการณ์ปกติ

ด้านนายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี กรมชลประทาน เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและต้องเฝ้าระวังในจำนวน 17 จุดใน 7 อำเภอ อาทิ ชุมชนวังแดง ชุมชนหาดคูเดื่อ ในอำเภอเมือง ชุมชนหาดสวนยา ชุมชนเกตุแก้ว ในอ.วารินชำราบ บ้านไร่ใต้ บ้านไร่เหนือ บ้านสร้างแก้ว ในอ.พิบูลมังสาหาร บ้านคำสำราญ อ.เดชอุดม บ้านโพนสุขสันต์ อ.บุณฑริก เป็นต้น ซึ่งได้เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเข้าประจำการหมดทุกจุดแล้ว

สำหรับสถานการณ์น้ำโดยรวมในพื้นที่จ.อุบลราชธานีนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดตามสถานการณ์ข่าวสารที่กรมชลประทานแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิดในทุกช่องทาง ได้แก่Facebook โครงการชลประทานอุบลราชธานี http://ubonratchathani.rid.go.th กลุ่ม LINE เครือข่ายอุบลฯ รถเคลื่อนที่แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ รวมถึงสัญลักษณ์ ธงเตือน สายด่วน 1460 พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ในทุกจุดโทรมาตรที่ประชาชนสามารถแจ้งเหตุเตือนภัยกับเจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน คาดว่าทุกมาตรการที่กรมชลประทานได้ตระเตรียมไว้จะช่วยให้ผ่านพ้นภัยอันจะเกิดในหน้าฝนนี้ไปได้ด้วยดี

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top