สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ทุกอาชีพได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า แรงงานบางส่วนถูกเลิกจ้าง บางส่วนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ทำให้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ลดลงไม่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพอย่างอาชีพขับรถแท็กซี่ ที่อยู่ในระบบขบวนการสหกรณ์ ปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารลดลงมากกว่า 50% ส่งผลกระทบ ทำให้สมาชิกสหกรณ์แท็กซี่มีรายได้ลดลงอย่างมาก
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงได้สั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยมีแนวทาง 2 ด้าน คือ ด้านค่าใช้จ่าย และด้านรายได้ เพื่อบรรเทาปัญหาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกระทรวงแรงงาน เพื่อให้คนขับรถบริการที่อยู่ในระบบสหกรณ์ ทั้งรถแท็กซี่ สามล้อเล็ก รถสองแถว หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้าสู่มาตรา 40 ของกฎหมายแรงงาน ให้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 5,000 บาท และการเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ ของธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพสหกรณ์นอกภาคการเกษตร โดยจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ให้กู้ยืมไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19
พร้อมกันนี้ ยังได้จัดทำโครงการ “สหกรณ์ร่วมใจ ช่วยแท็กซี่ไทยสู้ภัยโควิด–19” มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ขับรถแท็กซี่ ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์แท็กซี่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาสมาชิกสหกรณ์แท็กซี่ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวให้กับสมาชิกสหกรณ์แท็กซี่ ซึ่งถุงยังชีพประกอบด้วย ข้าวสาร 5 กิโลกรัม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 6 ซอง ปลากระป๋อง 6 กระป๋อง, น้ำมันพืช 1 ลิตร, นมพร้อมดื่มจาก อ.ส.ค. 1 แพ็ก น้ำดื่ม 1 โหล และผลไม้จากภาคใต้ ได้แก่ เงาะและมังคุด จำนวน 1 ตะกร้า โดย นางสาวมนัญญา
ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานเปิดโครงการด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
สำหรับปัญหาเรื่องที่จอดรถ ปัจจุบันสหกรณ์มีจำนวนแท็กซี่ที่จอดทิ้ง เนื่องจากไม่มีคนขับประมาณ 5,000 คัน ซึ่งในเบื้องต้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดเตรียมพื้นที่ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดปทุมธานี และศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 1 และ 2 ให้จอดรถชั่วคราว รองรับรถแท็กซี่ได้ประมาณ 200-300 คัน นอกจากนี้ยังประสานไปยังกรมธนารักษ์และการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือหาที่จอดรถให้เพียงพอกับจำนวนแท็กซี่ ได้พื้นที่จอดภายในโรงงานยาสูบ จอดได้ 150 คัน บริษัท CAT เทเลคอม จังหวัดนนทบุรี จอดได้ 120 คัน ส่วนที่ซอยเสรีไทย 66 (พื้นที่ 10 ไร่) และที่เขตหนองจอกสามารถจอดได้ประมาณที่ละ 1,000 คัน และพื้นที่ของหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน ปากเกร็ด จอดได้อีก 300 คัน
ทั้งนี้ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ให้ข้อมูลกับ ขุนเกษตรา ว่า ปัจจุบันสหกรณ์แท็กซี่มีจำนวน 59 แห่ง มีสมาชิก 50,974 คน มีจำนวนรถแท็กซี่ 19,555 คัน โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สมาชิกไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ทำให้มีรายได้ลดลง สมาชิกบางส่วนไม่สามารถชำระหนี้ ต้องคืนรถให้กับสหกรณ์ได้ สหกรณ์จึงต้องแบกรับภาระหนี้รายเดือนและค่าเช่าจอดรถนับพันคัน ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีหนังสือหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเยียวยาช่วยเหลือสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบด้านภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการ ค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพรถ ค่าเชื้อเพลิง และค่าเบี้ยประกันภัยภาคสมัครใจ ผลกระทบด้านการชำระหนี้สถาบันการเงิน รวมทั้งขอเข้าร่วมโครงการเยียวยาจากภาครัฐตามมาตรการต่าง ๆ แล้ว ซึ่งขณะนี้คาดว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความช่วยเหลือของแต่ละหน่วยงาน
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี