ลุยเกษตรสุดเขตไทยวันนี้พักเรื่องราคาผลไม้ไว้ชั่วคราว ช่วงฤดูฝนนี้“หนุ่มยูโร” ได้รับการแจ้งเตือนจากหลายหน่วยงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมจึงอยากจะนำความหวังดีมาสู่พี่น้องประชาชนคนไทยให้เฝ้าระวังเพราะกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน พายุโซนร้อน “โอไมส์” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนรุนแรงแล้วและมีแนวโน้มเคลื่อนตัวสู่ทะเลจีนตะวันออก จะส่งผลกระทบ 34 จังหวัด รวมทั้ง กรุงเทพมหานครด้วย
ล่าสุดกรมชลประทาน ขานรับนโยบายรัฐบาล กำหนดแผนปฏิบัติการรองรับอุทกภัย ตามสภาพพื้นที่ลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน พร้อมทั้งร่วมบูรณาการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 4/2564 โดยมี นายประพิศจันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายเฉลิมเกียรติคงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง และผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมผ่านระบบ VDO Conference
นายประพิศ จันทร์มา แจ้งว่า ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) แล้ว ประกอบไปด้วย โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จ.เชียงราย โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จ.ระยอง และโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทั้ง 3 โครงการ อยู่ในระหว่างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินโครงการ
นอกจากนี้ กนช. ยังได้ติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวมไปถึงการจัดทำแผนรับมือน้ำท่วม เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัยให้กับประชาชนแม้โครงการยังไม่แล้วเสร็จให้มากที่สุด โครงการจัดหาแหล่งน้ำรองรับพื้นที่รัศมี 30 กิโลเมตร รอบสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และยังได้ร่วมกันพิจารณาโครงการอ่างเก็บน้ำคลองกะพง จ.ฉะเชิงเทรา โครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ซึ่งหากดำเนินการทั้ง 2 โครงการแล้วเสร็จจะเป็นการเพิ่มต้นทุนน้ำให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกครบทั้งระบบ สร้างความสมบูรณ์และสมดุลน้ำในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีโครงการสูบผันน้ำจากคลองสะพานแนวที่ 2 จ.ระยอง ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการทั้ง 3 โครงการ และเตรียมเสนอ กนช.พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
“หนุ่มยูโร”ให้กลับไปย้อนดู ถึงการจัดการลุ่มน้ำโขง ซึ่งประเทศจีน ตกเป็นจำเลยคดีแม่น้ำโขง ไม่ว่าจะเป็นฤดูแล้ง แม่น้ำโขงแห้งหรือฤดูฝน แม่น้ำโขงล้น มีหลายประเทศกล่าวโทษจีนเป็นตัวการ สร้างเขื่อนมากมายปิดกั้น ทำให้น้ำโขงแปรปรวน รวมทั้ง 5 ชาติอาเซียน(พม่า ลาว ไทย กัมพูชา เวียดนาม)ต่างเขม่นจีน เรามาลองศึกษาดูกันว่าน้ำโขง 100 ส่วนมาจากไหนกันบ้าง จีนเหนือสุดของแม่น้ำโขง ปล่อยน้ำลงน้ำโขงราวๆ 16% โดยประมาณ ประเทศไทย มวลน้ำจากแม่น้ำชีกับแม่น้ำมูล ปล่อยน้ำลงน้ำโขงรวมราวๆ 17% มากกว่าจีนอีก ส่วนลาว คือมหาอำนาจแม่น้ำโขงที่แท้จริง เพราะน้ำท่าจากลาว ไหลลงสมทบแม่น้ำโขงเกือบ 40% มากกว่าใครเพื่อน ดังนั้น ต่อให้จีนปิดกั้นน้ำโขงทั้งหมด กระทบกระเทือน 5 ชาติ ก็แค่ 16% หรือ 1 ใน 6 ส่วนเท่านั้นลาวสิครับ ถ้าเก็บน้ำไว้ไม่ปล่อยลงลำน้ำโขงชาติที่อยู่ตอนล่าง กระทบหนัก ชนิดน้ำโขงขอดไปเกือบครึ่งสายแนวทางกลับกันเกิดลาวปล่อยน้ำลงโขงเยอะๆ ชาติที่เหลือน้ำท่วมหนักได้เช่นกันที่ผ่านมา ก่นด่าว่าจีน ถูกแค่เศษเสี้ยว ส่วนตัวจริงจะเป็นใคร คงไม่ต้องเอ่ยถึงกระมังครับ “บ้านพี่เมืองน้องของเรานี่เองครับ”
หนุ่มยูโร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี