วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กรมชลประทานเผยผลศึกษาความเหมาะสมขยายคลองลอยจากเขื่อนผาจุก สามารถสร้างความมั่นคงเรื่องน้ำ แก้ปัญหาภัยแล้งได้ถึง 22 หมู่บ้านในเขต 3 อำเภอของสุโขทัยและอุตรดิตถ์ยืนยันกว่า 5,500 ครัวเรือนได้รับประโยชน์ มั่นใจเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสมการขยายคลองลอยจากเขื่อนผาจุก-ศรีสัชนาลัย-สวรรคโลก จ.อุตรดิตถ์ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในเขตจ.อุตรดิตถ์ และสุโขทัย โดยเฉพาะในลุ่มน้ำคลองด่านแม่คำมัน และลุ่มน้ำคลองยม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ อ.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย และบางส่วนของ อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ที่ไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน ราษฎรต้องอาศัยน้ำฝนในการทำเกษตรและดำเนินชีวิต ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำซ้ำซากในช่วงฤดูแล้งและฝนทิ้งช่วง ไม่มีความมั่นคงเรื่องน้ำเพื่อการเกษตรและเพื่อการอุปโภค-บริโภค ส่งผลโดยตรงต่อการใช้ประโยชน์ที่ดินและผลผลิตด้านการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง
“ผลการศึกษาความเหมาะสมการขยายคลองลอยดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมในทุกๆด้านทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งยังได้ลงพื้นที่ร่วมหารือกับผู้นำชุมชน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้ใช้น้ำ เพื่อรับข้อมูลที่สะท้อนสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ พบว่า รูปแบบ
การพัฒนาที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาที่สุดคือ การส่งน้ำจากเขื่อนผาจุกที่มีศักยภาพบริหารจัดการน้ำถึง 848 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อปี ผ่านคลองลอยดาดคอนกรีตจำนวน 4 ล้านลบ.ม.ต่อปีไปยังพื้นที่ๆ ประสบปัญหาโดยตรง” นายเฉลิมเกียรติกล่าว
ทั้งนี้ในการส่งน้ำจากเขื่อนผาจุกจะส่งผ่านคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาโดยการสร้างคลองลอยดาดคอนกรีตจำนวน 3 สายได้แก่ MC1 MC2 และ MC3 ความยาวรวมประมาณ 90 กิโลเมตร พร้อมสถานีสูบน้ำจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ อาคารประกอบ และระบบกระจายน้ำ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 35,017 ไร่ ครอบคลุม 22 หมู่บ้าน 5 ตำบลได้แก่ ต.ดงคู่ ต.ท่าชัย ต.ป่างิ้ว อ.ศรีสัชนาลัย ต.นครเดิฐ อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย และ ต.ข่อยสูง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีหลักประกันความมั่นคงเรื่องน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค เพื่อการเกษตร โดยเฉพาะในฤดูแล้งจะสามารถปลูกพืชฤดูแล้งได้กว่า 13,000 ไร่ รวมทั้งยังช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการปลูกพืชเป็นพืชที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น เช่น ปลูกผักบุ้งพันธุ์เมล็ดเพื่อการส่งออก ปลูกผลไม้เศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ลองกอง มังคุด เงาะ เป็นต้นรวมทั้งยังจะทำให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการปศุสัตว์ ประมง และท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังจะมีการก่อสร้างถนนเลียบสองฝั่งคลองเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจร ขนส่งสินค้าอันจะเป็นการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจแนวเขตที่จะดำเนินโครงการในเบื้องต้นพบพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 1,840 ไร่ ซึ่งกรมชลประทานได้เตรียมงบประมาณเพื่อชดเชยประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี 2566 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี ใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 474 ล้านบาท
“การขยายคลองลอยจากเขื่อนผาจุกดังกล่าว จะสามารถบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนอันเกิดจากภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตให้ภาคการเกษตรและภาคอื่นๆ กระจายรายได้โดยตรงสู่ราษฎร ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นในที่สุด โดยมีราษฎรได้รับประโยชน์ประมาณ 5,500 ครัวเรือน ซึ่งเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดในพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า” รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวย้ำในตอนท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี