ศาลอาญาคดีทุจริตฯส่งคดี ยื่นฟ้องนายกฯตู่ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบบริหารโควิดผิดพลาดจนเกิดการแพร่ระบาด ให้ประธานศาลอุทธรณ์ชี้ขาดว่าเขตอำนาจศาลคดีนี้จะอยู่ในเขตอำนาจศาลใด ระหว่างศาลอาญาคดีทุจริตฯ หรืออำนาจศาลฎีกานักการเมืองฯ“นรินท์พงศ์”เเถลงศาล “ประยุทธ์”นั่งหลายตำเเหน่ง อำนาจคาบเกี่ยวเชื่อเป็นเขตอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตฯ ศาลนัดพร้อมอีกครั้งเพื่อฟังคำสั่งกลาง พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 64 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซอยสีคาม ถนนนครไชยศรี ศาลได้อ่านคำสั่งชั้นตรวจฟ้องคดี หมายเลขดำอท. 117/2564 ที่ น.ส.สุกัญญา วงศ์ศรีแสงสุอุทัย กับพวกรวม 8 คนเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 165
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีปล่อยปละละเลยเเละบริหารงานผิดพลาด จนเกิดการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด ถึง 4 ระลอก รวมทั้งบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรงทำให้จํานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนระบบสาธารณสุขปกติไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจํานวนมากดังกล่าวได้ โดยวันนี้ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยทีมทนายความเดินทางมาฟังคำสั่ง
ศาลพิจารณาตรวจฟ้องเบื้องต้นแล้วเห็นว่า โจทก์ทั้ง แปด ยื่นฟ้องจำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรีว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,165 โดยที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560มาตรา 10 บัญญัติให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีที่มีมูลแห่งคดีเป็นการกล่าวหาว่า เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเฉพาะตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
กรณีจึงมีปัญหาว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางหรือไม่ อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559มาตรา 11 เห็นควรส่งสำนวนนี้ให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีอยู่ในเขตอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบหรือไม่ และรอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราวก่อนจนกว่าประธานศาลอุทธรณ์จะได้มีคำวินิจฉัยให้นัดพร้อมเพื่อรอฟังผลหรือฟังคำสั่งของประธานศาลอุทธรณ์ในวันที่ 15 พ.ย. เวลา 09.00 น.
นายนรินท์พงศ์ กล่าวภายหลังฟังคำสั่งว่า การที่คดีจะไปพิจารณาที่ศาลใดนั้นต้องดูเขตอำนาจศาล โดยก่อนหน้าที่จะมายื่นฟ้องเราได้พิจารณาเเล้วว่ามาศาลนี้ถูกที่สุดโดยที่เราไม่ได้ไปยื่น ปปช. การฟังคำสั่งวันนี้ศาลก็ยังไม่ได้ชี้ว่าเป็นอำนาจของศาลใด เพียงเเต่ส่งไปศาลสูงพิจารณา เนื่องจากยังเห็นว่าเป็นเรื่องคาบเกี่ยวกัน แต่ถ้าสุดท้ายแล้วคดีจะต้องไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเราก็ไม่ได้กังวลเราก็จะใช้ช่องทางนำคดีไปที่ศาลนั้น
“วันนี้เราได้เเถลงศาลว่าที่ท่านอ่านรายงานกระบวนพิจารณาว่าฟ้องตำเเหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ถูกทั้งหมด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานอกจากเป็นนายกฯเเล้วยังเป็นประธาน ศบค.เเละยังเป็นประธานทุกคณะที่บริหารเรื่องโรคโควิด เราก็มองว่าตำเเหน่งประธานคณะต่างๆอยู่ในเขตอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตฯซึ่งศาลท่านก็เข้าใจเเละเรายังได้เเถลงถึงอำนาจในหน่วยงานอื่นๆนอกจากตำเเหน่งนายกฯเข้าไปด้วย”นายนรินท์พงศ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีนี้ นายนรินท์พงศ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้นำรายชื่อประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารทางสาธารณสุขผิดพลาดจากรัฐบาลกว่า 700,000 คน ที่ได้ลงชื่อในแคมเปญของพรรคไทยสร้างไทย ในการร่วมฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา กับ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี เเละประธานบริหารหน่วยงานเกี่ยวกับโควิด เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้จัดการประกวดเวทีนางงามชื่อดัง เป็นโจทก์ในคดีด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี