จ้าหน้าที่ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 ได้วางกำลังซุ่มสกัดจับกลุ่มแรงงานที่แอบหลบหนีเข้าเมืองไทย ได้48 คนสารภาพจะเดินทางไปทำงานที่ล้งลำไยในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยได้เสียค่าหัวรายละ 5,000 บาท เจรจาส่งมอบเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายกัมพูชามารับตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันที่ 4 กันยายน 2564 เวลา 13.00 น. นาวาเอกศราวุฒิ บุตรเสรีชัย หัวหน้าขุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่4 บ้านหนองบอน ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการในพื้นที่บ้านคลองใหญ่ ให้ประสานงานเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายกัมพูชาเพื่อมารับตัวกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมือง จำนวน 48 คน โดยได้เดินข้ามมาทางช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นคลองกั้นระหว่างแดนไทย -​ กัมพูชา

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 4 กันยายน 64 เรือเอกอิทธิพล ตันติวิศวกรรม ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 546 ฐานคลองโป่งน้ำร้อนร่วมกับ เรือโท วันขาติ พรหมรักษา ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 541 ฐานบ้านผักกาด ร่วมกับตำรวจภูธรโป่งน้ำร้อน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ด่านผักกาด ทำการออกลาดตระเวนในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา และจัดกำลังเพื่อเฝ้าระวังการลักลอบแอบหลบหนีเข้าเมือง ของกลุ่มแรงงานกัมพูชา เพื่อป้องกันในการระบาดของไวรัสโควิด19 จนกระทั่งเวลา 04.00 น  ได้มีกลุ่มแรงงานกัมพูชาเป็นจำนวนมากกำลังเดินทางข้ามคลองกั้นระหว่างเขตแดนไทยกัมพูชา จะเข้ามาฝั่งไทย จึงเข้าแสดงตนและทำการควบคุมกลุ่มแรงงานทั้งหมด รวม48 คน พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

จากการสอบสวนแรงงานทั้งหมดทราบว่าจะเดินทางมาทำงานเพื่อเก็บลำไยที่บ้านจางวาง ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน โดยมีนายหน้าของกัมพูชาซึ่งเป็นผู้นำทางและจะมีรถจากคนไทยมารับช่วงต่อโดย ตกลงจ่ายค่าดำเนินการคนละ5,000 บาท แต่ไปไม่รอดมาถูกเจ้าหน้าที่ทหารไทยจับกุมได้เสียก่อน ส่วนรถคนไทยที่จะมารับคนงานก็ยังไม่พบคาดว่าจะรู้ตัวแล้วหลบหนีไปก่อนจึงไม่ได้มารับแรงงานตามที่นัด หมาน  จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาให้มารับตัวเพื่อทำการผลักดันกลับและนำไปดำเนินคดีตามกฎหมายฝั่งกัมพูชาต่อไป