ช่วงนี้ประเทศไทยฝนตกหนักหลายพื้นที่“หนุ่มยูโร” เป็นห่วงสถานการณ์น้ำในประเทศ หวั่นจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 อาทิตย์ที่ผ่านมาหลายพื้นที่ต่างประสบกับปัญหาน้ำท่วมกันหนักหน่วงทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก และภาคกลาง
การจัดการเรื่องน้ำของประเทศไทย มีหลากหลายหน่วยงาน ครั้งแรกๆ “หนุ่มยูโร”เข้ามาศึกษายังงงกับระบบการจัดการน้ำของประเทศไทย ทั้งกรมชลประทาน,กฟผ.ที่ดูแลเขื่อนต่างๆ รวมทั้งการก่อกำเนิดของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และสำนักระบายน้ำของกทม.อีก
เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ทำให้รู้จักห้วย หนอง คลองบึง และประตูระบายน้ำมากขึ้น ชื่อประตูระบายน้ำต่างๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด หลังจากนั้นเมื่อปี 2560 ยุคคสช.ก็ตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้นมาดูแลน้ำทั้งระบบ นั้นคือสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ได้ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์มาทำหน้าที่เป็นเลขาธิการสนทช. เทียบเท่าปลัดกระทรวง หรือ ซี 11
แต่มติครม.เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 แต่งตั้งนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมการฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)คนใหม่ โดย ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสทนช.คนปัจจุบัน เกษียณอายุราชการ
ดร.สมเกียรติ อธิบดีกรมชลประทานหมาดๆ ในยุคนั้นมาเป็นเสาหลักในการจัดทำยุทธศาสตร์น้ำของประเทศ และจัดทำร่างพ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 เพียง 3 ปีออกดอกออกผล ทั้งบูรณาการหน่วยงานน้ำร่วม 40 หน่วย 10 กระทรวง ทั้งจัดระเบียบให้ทุกหน่วยอยู่ในแถว เพื่อขับเคลื่อนภารกิจบริหารจัดการน้ำของประเทศให้เห็นผลจากเดิมที่ต่างคนต่างทำ จากเดิมที่ใครมีแรงมากกว่า วิ่งชิงงบได้ก่อนใคร มาเป็นการหาเจ้าภาพรับผิดชอบแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ไล่ลงขนาดเล็ก 1.4 แสนแห่ง และมีโอกาสเข้าถึงงบเท่าเทียมกัน
ดร.สมเกียรติ จัดวางโครงสร้างกำกับดูแลน้ำ ตั้งแต่ระดับชาติ(คณะกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติ)ระดับลุ่มน้ำ(คณะกรรมการลุ่มน้ำ)และระดับจังหวัด(คณะอนุกรรมการน้ำจังหวัด) โดยมีสทนช.เป็นฝ่ายเลขานุการ ทำให้การขับเคลื่อนเป็นจริงได้
พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 เป็นเครื่องมือสำคัญในการออกกฎหมายลูกเพื่อขับเคลื่อนอย่างจริงจัง อาทิ การจัดตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ จากภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม แล้วคัดเลือกเป็นตัวแทนในกรรมการระดับต่างๆ การจัดทำผังน้ำ การจัดเก็บค่าน้ำ ฯลฯ ถือเป็นผลงานหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจหมาดๆ
ผลงานล่าสุด ดร.สมเกียรติประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการศึกษาเพื่อจัดทำแผนหลักบริหารจัดการทรัพยากรน้ำกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมชี้แจงว่า ลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่รวมประมาณ 104 ล้านไร่ มีลุ่มน้ำสำคัญ 3 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมักประสบกับสภาพทั้งปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม ปัญหาโครงสร้างการจัดการน้ำ และปัญหาคุณภาพน้ำ
โดยพบว่าจากพื้นที่ Area Based อยู่ในภาคอีสาน 16 พื้นที่ เป็นพื้นที่ที่ปัญหาด้านน้ำถึง 14 พื้นที่ แบ่งเป็น พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง 13 พื้นที่ อาทิ ลุ่มน้ำโมงตอนบน ลุ่มน้ำห้วยหลวง ลุ่มน้ำแม่น้ำสงคราม ลุ่มน้ำพุง-น้ำก่ำ ลุ่มน้ำชีตอนบน ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ลุ่มน้ำมูล และ เมืองบุรีรัมย์-สุรินทร์ รวม 11.7 ล้านไร่ พื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง 1 พื้นที่ คือ ลุ่มน้ำเลยตอนล่าง มีพื้นที่ 0.063 ล้านไร่ และเขตเศรษฐกิจพิเศษ 2 พื้นที่ ได้แก่ นครพนม และ มุกดาหาร รวม 0.042 ล้านไร่
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล มารับตำแหน่งเลขาฯ สทนช. ทุกคนหวังว่าสทนช.จะเดินหน้าต่อไป เป็นเสาหลักแห่งการบริหารจัดการน้ำของประเทศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ชาวบ้านดีใจที่ได้มืออาชีพมาบริหารจัดการน้ำแทนคนเก่าครับ
‘หนุ่มยูโร’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี