วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เตือนเกษตรกรระวังโรคเน่าในผักตระกูลกะหล่ำ-ผักกาด

เตือนเกษตรกรระวังโรคเน่าในผักตระกูลกะหล่ำ-ผักกาด

วันจันทร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag : โรคเน่าในผักตระกูลกะหล่ำ
  •  

ในช่วงที่มีฝนตกและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรผู้ปลูกผักตระกูลกะหล่ำ และผักกาด อาทิ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บร็อกโคลี่ ผักกาดขาว และผักกาดหัว ให้เตรียมรับมือการระบาดของโรคเน่าเละ สามารถพบได้ในทุกระยะการเจริญเติบโตของพืชอาการเริ่มแรกจะพบบนใบหรือบริเวณลำต้นมีแผลเป็นจุดฉ่ำน้ำเล็กๆ ต่อมาแผลจะขยายลุกลามเป็นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลเข้ม ส่วนเนื้อเยื่อบริเวณแผลจะยุบตัวลง และจะมีเมือกกลิ่นเหม็นฉุนเยิ้มออกมาภายนอก จากนั้น ต้นพืชจะเน่ายุบตายไปทั้งต้นโรคเน่าเละจะพบการระบาดมากในช่วงฤดูฝน เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคสามารถเข้าทำลายได้ทุกส่วนของพืชทั้งในสภาพแปลงปลูกและในโรงเก็บ

สำหรับแนวทางในการป้องกันและแก้ไข เกษตรกรควรหมั่นสำรวจตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากเริ่มพบอาการของโรคเน่าเละในแปลงปลูก ให้รีบขุดต้นที่เป็นโรคและเก็บเศษซากพืชส่วนที่เป็นโรคออกจากแปลงนำไปทำลายนอกแปลงปลูกทันที หลีกเลี่ยงการทำให้ส่วนต่างๆ ของพืชเกิดแผลซึ่งแผลจะเป็นช่องทางให้เกิดเชื้อเป็นสาเหตุของโรคเข้าทำลายพืชได้ง่าย รวมถึงควรดูแลไม่ให้พืชขาดธาตุแคลเซียมและโบรอน เพราะจะทำให้พืชเกิดแผลจากอาการปลายใบไหม้และไส้กลวง อีกทั้งเกษตรกรควรล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางการเกษตรต่างๆให้สะอาด และผึ่งแดดให้แห้งหลังการใช้งานทุกครั้ง เมื่อได้นำไปใช้กับต้นที่เป็นโรคก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ในครั้งต่อไป


หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อยแล้ว ก่อนการปลูกพืช เกษตรกรควรไถกลบเศษพืชผักและไถพรวนพลิกหน้าดินให้ลึกจากผิวดินมากกว่า 20 เซนติเมตร ทิ้งตากแดดไว้นานกว่า 2 สัปดาห์ และไถกลบพลิกหน้าดินอีกครั้ง เพื่อทำลายเชื้อสาเหตุโรคที่ติดอยู่กับเศษซากพืช และป้องกันการสะสมของเชื้อสาเหตุโรคในดิน กรณีที่พื้นที่เคยมีการระบาดของโรค ให้เกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน อาทิถั่วเหลือง ถั่วเขียว และข้าวโพด ส่วนในฤดูปลูกถัดไปเกษตรกรควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีการระบายน้ำที่ดี และเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยมีการระบาดของโรคนี้มาก่อนหลีกเลี่ยงการปลูกพืชแน่นจนเกินไป เพื่อไม่ให้มีความชื้นสูงสะสม และลดการระบาดของโรค

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ราคาทองพุ่งปรี๊ด ราคาปรับเพิ่ม 1,000 บาท ทองรูปพรรณขายออก 66,850 บาท

‘สุรินทร์’ปะทะหนัก ‘เขมร’จ้องประชิด‘ปราสาทตาเมือนธม’ ชาวบ้านเฝ้าระวัง‘โดรน-สายลับ’

'เอกพร'หนุน สส.เขต1 นครพนม ชูนโยบาย พท. เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ-แก้หนี้ครัวเรือน

'ทภ.2'เจาะ 18 เป้าหมาย ฐานทหารกัมพูชา ระดม BM-21/ปืนใหญ่ โจมตีไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved