เดินหน้าพัฒนานักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพ ด้วยระบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน นำไปสู่ Smart Officer ถ่ายทอดเกษตรกรสู่ Smart Farmer ภายใต้วิธีการทำงานสู่ความปกติใหม่ (New Normal)
นายปิยะ สมัครพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง (สสก. 3) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการพัฒนาเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ให้เป็น “นักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพ” โดยเฉพาะการปรับระบบความคิด และทัศนคติในการทำงานส่งเสริมการเกษตร นักส่งเสริมการเกษตรจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจ และมีความพร้อมในการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ เพื่อขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และมีความสอดคล้องเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ
สสก.3 จ.ระยอง จึงได้จัดทำ “โครงการพัฒนานักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2564” ขึ้น เพื่อสร้างนักส่งเสริมการเกษตรให้มีความเป็นมืออาชีพ มีศักยภาพในการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา และมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ในรูปแบบการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นนักส่งเสริมการเกษตร มืออาชีพผ่านระบบ “พี่เลี้ยง” และ “น้องเลี้ยง”
“เพื่อให้นักส่งเสริมการเกษตร มีความรู้ ความสามารถ มีทัศนคติเชิงบวก และทักษะในการปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักส่งเสริมการเกษตรเป็นที่ยอมรับ และสามารถปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรให้เกิดผล นำไปสู่การเป็น Smart Officer และนำไปพัฒนาให้แก่เกษตรกร สู่การเป็น Smart Farmer ต่อไป”นายปิยะ สมัครพงศ์ กล่าว
ผอ.สสก. 3 จ.ระยอง เผยเพิ่มเติมด้วยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ที่ต้องปรับวิธีการทำงานสู่ความปกติใหม่ (New Normal) ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการทำงาน และการสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นต่างๆ สสก.3 จ.ระยอง จึงดำเนินโครงการพัฒนานักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2564 ขึ้นโดยผ่านระบบออนไลน์ มีกระบวนการ 2 ขั้นตอน คือ ครั้งที่ 1 เป็นการจุดไฟการเรียนรู้ เน้นการฝึกอบรมให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะเพิ่มเติมให้กับผู้เข้าอบรม ให้เกิดความมั่นใจ พร้อมกระตุ้น ให้เกิดแรงบันดาลใจ และมีความภาคภูมิใจในการเป็นนักส่งเสริมการเกษตร เรียนรู้ถึงการปรับตัว ปรับรูปแบบการทำงาน ให้เข้ากับวิธีการทำงานสู่ความปกติใหม่ หรือ New Normal
ในครั้งที่ 2 จะเป็นการเพิ่มเติมความรู้ในเรื่องแนวทางการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ เทคนิคการเป็นวิทยากรกระบวนการในการจัดเวทีชุมชน และให้ผู้เข้าอบรม ฝึกปฏิบัติโดยการเรียนรู้เป้าหมายเพื่อวิเคราะห์ศักยภาพ สถานการณ์ของพื้นที่นั้น และกำหนดเป้าหมายร่วมของการพัฒนาเพื่อจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรของชุมชนที่เป็นรูปธรรมและเกิดการพัฒนาจริงในพื้นที่ ดำเนินการพื้นที่กลุ่มเกษตรกร 8 จังหวัด ในเขตภาคตะวันออก กลุ่มจังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม
กลุ่มจังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ ศพก.อำเภอพนมสารคาม ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่กลุ่มส่งเสริมอาชีพการเกษตรผู้ปลูกผักปลอดภัย ตำบลเขาซก อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี กลุ่มจังหวัดนครนายก ลงพื้นที่กลุ่มแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับ ตำบลศีรษะกระบือ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก กลุ่มจังหวัดปราจีนบุรี ลงพื้นที่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพลูกินหมาก ตำบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กลุ่มจังหวัดระยอง ลงพื้นที่กลุ่มแปลงใหญ่ข้าว ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง กลุ่มจังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่กลุ่มผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ ตำบลศีรษะจระเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ และกลุ่มจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่กลุ่มแปลงใหญ่สมุนไพรทับทิมสยาม 05 ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว
ทั้งนี้เนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรภาคการเกษตรครอบคลุมอยู่ทุกระดับในทุกพื้นที่ โดยมีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร ครอบครัวเกษตรกร องค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน การส่งเสริม และพัฒนาเพิ่มศักยภาพการผลิตการแปรรูป การเพิ่มมูลค่าการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ โดยการศึกษา วิจัย พัฒนา กำหนดมาตรการและแนวทางในการส่งเสริมการเกษตร ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร และการให้บริการเพื่อให้เกษตรกรมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ดังนั้น การพัฒนานักวิชาการส่งเสริมการเกษตรให้เป็นนักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานร่วมกับเกษตรกรและภาคีเครือข่ายจนเป็นที่ยอมรับให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และเป็นผู้จัดการการเกษตรในพื้นที่ได้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี