คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ออกคำสั่งกำหนดพื้นที่ควบคุมปิด 4 หมู่บ้านใน 3 ตำบล 2 อำเภอห้ามเข้า-ออกเป็นเวลา 14 วันหลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรวมกัน 34 คนมีผู้สัมผัสเพิ่มเติมในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนมาก ขณะทั้งจังหวัดยอดผู้ป่วยสะสมพุ่ง 14,932 ราย หายป่วยสะสม 13,826 ราย
16 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ โดยนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 69/2564 , คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 71/2564 และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 74/2564 ลงวันที่ 15 ก.ย.2564 เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุม
ทั้งนี้ มีเนื้อหา ระบุว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่บ้านศิลาทอง หมู่ที่ 21 และบ้านหัวสะพาน หมู่ที่ 8 ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จำนวน 13 ราย, มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่บ้านหนองตาแอก หมู่ที่ 11 ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จำนวน 11 ราย และมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่บ้านไทรโยงเหนือ หมู่ที่ 19 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 10 ราย
โดยมีผู้สัมผัสเพิ่มเติมในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนมาก และมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22(7) มาตรา 34(1) และมาตรา 35(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ข้อ 6 (1) ของประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563 และข้อ 7 (1) (4) ของกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ในคราวประชุมฯ ครั้งที่ 45/2564 เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2564 จึงมีคำสั่งให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ในพื้นที่บริเวณคุ้มศิลาทองและคุ้มหนองตาหลอด บ้านศิลาทอง หมู่ที่ 21 และบ้านหัวสะพาน หมู่ที่ 8 ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ , ห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออกจากพื้นที่บ้านหนองตาแอก หมู่ที่ 11 ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออกจากพื้นที่บริเวณคุ้มพะไลน้อย บ้านไทรโยงเหนือ หมู่ที่ 19 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีกำหนด 14 วัน (ตั้งแต่วันที่ 15 – 28 ก.ย. 2564) เว้นแต่สามารถควบคุมโรคได้ อาจพิจารณายกเลิกคำสั่งได้ก่อนกำหนด หากมีความจำเป็นจะต้องเข้าหรือออกจากพื้นที่ ให้ขออนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์
2. ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.2564 เวลา18.00 น.เป็นต้นไป
โดยมอบหมาย ให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งทางศูนย์ EOC จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ดำเนินการปิดหมู่บ้านดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 15 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป จนครบ 14 วัน จากนั้นก็จะมีการประเมินสถานการณ์ จึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ รายงานข้อมูลสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ (โควิด-19) ระลอกใหม่ จ.บุรีรัมย์ ว่า วันนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 69 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 14,932 ราย เสียชีวิตสะสม 55 ราย หายป่วยสะสม 13,826 ราย และยังรักษาอยู่ 1,051 ราย กระจายตามโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัด - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี