ผู้ว่าฯปู’เปิดใจอำลาสมุทรสาคร ลั่นย้ายมาอ่างทองยังทำงานเต็มที่จนวันสุดท้ายชีวิตราชการ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ก.ย. 2564 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี หรือ ผู้ว่าฯ ปู กล่าวในรายการ “ไม่แพ้แน่นอนเราจะผ่านไปด้วยกัน” ออกอกากาศทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “COVID - 19 สมุทรสาคร” เนื่องในโอกาสอำลาตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยจะไปดำรงตำแหน่ง ผวจ.อ่างทอง ในปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ว่า นี่จะเป็นการร่วมรายการครั้งสุดท้ายในฐานะผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ซึ่งล่าสุดสถานกาณณ์โควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร ตนขอแสดงความยินดีเล็กๆ ไว้ คือการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุด 288 คน
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ได้ภูมิใจมาก เพราะหากย้อนไปในการระบาดระลอกแรก จ.สมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 18 คนเท่านั้น แต่การระบาดในปัจจุบันนั้นพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก สำหรับ จ.สมุทรสาคร ก็พบเป็นหลักแสนคนแล้ว อย่างไรก็ตาม ที่น่าภูมิใจคือปัจจุบัน จ.สมุทรสาคร หลุดออกจากรายชื่อ 10 อันดับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดไปแล้ว เรื่องนี้มาจากความร่วมมือของทุกฝ่าย โดยเฉพาะมาตรการป้องกันตนเองที่ยังดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพราะหากมีการผ่อนคลายแต่ไม่มีการป้องกัน โควิด-19 จะกลับมาเยือนสมุทรสาครอีกหรือไม่ ก็ต้องฝากไว้ด้วย
ส่วนเรื่องของการฉีดวัคซีนนั้น จะทำอย่างไรให้ประชากรร้อยละ 70 ขึ้นไปได้รับวัคซีน อย่างไรก็ตาม แม้จะฉีดได้ตามจำนวนดังกล่าว หลายฝ่ายก็ให้ข้อมูลว่าไม่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะโควิดมีการกลายพันธุ์ เพิ่มอานุภาพในการทำลายล้างมากขึ้น ดังนั้นต้องผลักดันเป็นร้อยละ 80 ร้อยละ 90 หรือให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สิ่งที่ยังไมได้พูดถึงในวันนี้คือวัคซีนของเด็กนักเรียน ขณะเดียวกันยังมีการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานชาวต่างชาติ โดยเปิดให้เข้ามาฉีดได้ผ่านการนัดหมายกับโรงพยาบาล
นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ตนมีเรื่องอื่นที่อยากพูดคุยกับชาวสมุทรสาคร คือ 1.การปรับปรุงตลาดรถไฟมหาชัย ซึ่งเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ซึ่งต้องยอมรับว่าด้านหนึ่งตลาดนี้อยู่กับ จ.สมุทรสาครมานาน แต่อีกด้านหนึ่งก็อยู่แบบไม่ถูกสุขลักษณะ แต่การจะไปยกเลิกตลาดก็ไม่สามารถทำได้เพราะ เพราะพ่อค้า-แม่ค้านับร้อยรายจะได้รับผลกระทบ ไม่รู้ว่าจะไปค้าขายที่ไหนกันต่อ รวมถึงเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ผู้คนซึ่งเดินทางมาตลาดรถไฟเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคจะไปซื้อกันที่ใด จึงนำมาสู่แผนการปรับปรุงตลาด ที่เริ่มพูดคุยกันมาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งมีการของบประมาณสนับสนุนทั้งจากส่วนกลาง เช่น เงินกู้และงบกลางของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจากกองทุนคนสมุทรสาครร่วมต้านภัยโควิด นำมาวางฝาท่อระบายน้ำใหม่ ระยะทาง 510 เมตร เปลี่นฝาพักบ่อ 4 แห่ง ปูกระเบื้องทางเดิน 280 เมตร ซ่อมแผงระบาดน้ำ ล้างขยะมูลฝอย โดยสรุปเป็นการดำเนินการทำความสะอาดตลาดรถไฟ ดังนั้นช่วงนี้ใครไปใช้บริการตลาดอาจจะไม่สะดวก แต่ก็กำชับให้การปรับปรุงดำเนินการอย่างรวดเร็ว
ส่วนตลาดอื่นๆ มีการจัดโครงการตลาดสุขใจ หมายถึงตลาดที่จะได้รับป้ายหรือโล่จากผู้ว่าฯ จะต้องยืนยันว่าผู้ค้าและคนงานในตลาดทุกคนฉีดวัคซีนครบ 100% และมีการตรวจคัดกรองผู้อยู่ในตลาดด้วยชุดตรวจ ATK ทุกๆ 7-15 วัน นี่คือความพยายามดำเนินการต่อสู้กับโควิด-19 ซึ่งตนมองว่าจะอยู่กับเราไปอีกนาน ยอมรับว่าเหนื่อย และตนก็เข้าใจบางกิจกรรมที่โดนห้าม โดยเฉพาะงานบริการภาคกลางคืน
“ร้านอาหาร นักดนตรี เด็กเสิร์ฟ อะไรต่างๆ เหนื่อยมาก เข้าใจและพยายามให้แต่ละฝ่ายรวบรวมแล้วก็ดำเนินการ ผมแจ้งไปที่ส่วนกลางแล้วว่าช่วยเหลือพวกนี้ด้วย ช่วยเหลือคนเหล่านี้ด้วย ช่วยเหลือกิจกรรมที่ห้ามๆ เหล่านี้ด้วย เพราะจังหวัดเองก็มีศักยภาพไม่เพียงพอต่อการจะช่วยเหลือ ฉะนั้นอยากจะให้ทางส่วนกลางได้พินิจพิจารณาเห็นความสำคัญของบุคลากรที่ทำงานในด้านนี้ด้วย” นายวีระศักดิ์ ระบุ
นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า อีกเรื่องหนึ่งคือ 2.ศูนย์จัดแสดงสัตว์น้ำ หรืออควาเรียมสมุทรสาคร ซึ่งเริ่มก่อสร้างในปี 2553 เปิดใช้ในปี 2554-2561 จากนั้นในปี 2561 ในของบประมาณมาปรับปรุง แต่ประสบปัญหาคือบริษัทผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จตามสัญญาได้ โดยอ้างว่าการออกแบบไม่ชัดเจน ในขณะที่ทางประมงจังหวัดสมุทรสาครยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ สุดท้ายจึงขอจบด้วยการบอกเลิกสัญญา จากนั้นในเดือน มี.ค. 2563 ได้ประกวดราคาหาผู้รับจ้างรายใหม่ แต่ก็หาผู้รับจ้างไมได้ ที่สนใจก็ไม่ยอมลดค่าดำเนินการ
ทั้งนี้ ตนไปชี้แจงจากคณะกรรมาธิการงบประมาณในรัฐสภา ผ่านการพิจารณาได้งบมา 19 ล้านบาท ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าโครงการนี้มูลค่า 30 ล้านบาท แต่เหตุใดได้เพียง 19 ล้านบาท คำตอบอยู่ที่ไม่รวมภูมิทัศน์ภายนอก เพราะจังหวัดก็ไม่ได้มีเงินมาก ต้องดำเนินงานเท่ากับงบที่มีก่อน ส่วนภายนอก ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง จะเสนอให้ใช้งบปี 2565 เหมือนกัน ซึ่งหากทุกอย่างแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2565 ก็จะยกให้เป็นสมบัติขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาคร แล้ว อบจ. จะปรับปรุงอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง
ในช่วงท้ายของการไลฟ์สด นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์โควิดที่ตนยังเป็นห่วงคือ 1.การฉีดวัคซีนให้เด็ก เพราะยังมีข้อถกเถียงกันว่าสามารถฉีดได้หรือไม่ ฝ่ายหนึ่งบอกว่าถ้าวัคซีนไฟเซอร์มาแล้วให้ฉีดในอายุ 12-18 ปีไปเลย อีกฝ่ายก็บอกว่าให้ฉีดเฉพาะอายุ 16-18 ปี เพราะเป็นห่วงว่าอายุน้อยกว่านั้นอาจพบผลข้างเคียงกล้ามเนื้ออักเสบ เรื่องนี้ตนไม่ใช่แพทย์คงไม่สามารถตอบอะไรได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าวัคซีนมาน้อยหรือมาก ถ้ามาน้อยก็ฉีดให้อายุ 16-18 ปีก่อน แต่หากวัคซีนมาจำนวนมาก คณะแพทย์พูดคุยกันเรียบร้อย ก็สามารถฉีดให้อายุ 12-18 ปีได้เลย ทั้งหมดอยู่ที่แผนการฉีดวัคซีนในอนาคตและกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับรอง กับ 2.การฉีดเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เดิมกำหนดไว้ที่ 1 ต.ค. 2564 แต่ทาง สธ. จะให้เริ่มเร็วกว่านั้นเพราะมีวัคซีนแล้ว แต่จะฉีดอย่างไร คงจะให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้หารือกันก่อน แต่การฉีดเข็ม 3 ต้องไม่ใช่ซิโนแวคเพราะกลายพันธุ์ไปแล้ว ควรเป็นไฟเซอร์หรือแอสตราเซเนกา
สุดท้ายสำหรับการย้ายจาก จ.สมุทรสาคร มาทำงานที่ จ.อ่างทอง บ้านเกิดในปีสุดท้ายของการรับราชการ ตนยืนยันว่าไม่ได้ย้ายกลับบ้านเพื่อพักผ่อน เพราะเป้าหมายในชีวิตราชการของตนคือการทำงานจนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ ดังนั้นภารกิจของตนจะเสร็จสิ้นในวันที่ 30 ก.ย. 2565 เพียงแต่ที่ จ.อ่างทอง อาจจะคล่องตัวกว่าเพราะบ้านอยู่ที่นี่ แต่เรื่องอื่นทุกอย่างยังเหมือนเดิม ขอสัญญากับคนอ่างทองที่กำลังดูตนพูดอยู่ ว่าตั้งใจมาทำงาน และขอขอบคุณคนสมุทรสาครที่ให้การสนับสนุนด้วยดี ได้กินอยู่หลับนอน เจ็บป่วย สนุกสนานและทำงานร่วมกันมาตลอด
“สมุทรสาครก็เหมือนเป็นบ้านอีกหลังของผม ต้องขอโทษจากใจจริง ขอโทษทุกๆ คนเลยที่ผมเองอาจจะมีมาตรการที่ทำให้หลายคนต้องลำบาก หลายคนรู้สึกว่าถูกจำกัดสิทธิ์ เพราะว่ารู้สึกเหมือนกับสูญเสียควาเป็นอิสระ สูญเสียเสรีภาพไป ซึ่งอันนี้เป็นหลักสำคัญ” นายวีระศักดิ์ กล่าว.-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี