ตร.ปอท.ฝากขัง “รุ้ง ปนัสยา”ผิด พ.ร.บ.คอมฯ-ชักชวนชุมนุมขับไล่นายกฯ ภัยความมั่นคงโยงเเอดมินกลุ่มเเนวร่วม มธ.ค้านประกันอ้างเป็นอุปสรรคสอบสวน ก่อนศาลอนุญาตให้ประกันตัว 3.5 หมื่น
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี (ปอท.) ยื่นคำร้องฝากขัง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย "
คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 เวลาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นายนพดล พรหมภาสิต ผู้กล่าวหาได้ตรวจสอบบัญชีเพจเฟซบุ๊กชื่อ" แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" ซึ่งมีการปลุกระดมและโพสต์ข้อความให้ผู้คนออกไปประท้วงเดินชุมมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลซึ่งในช่วงเวลานี้มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด อีกทั้งยังเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีการชุมนุมโดยสันติวิธีและสงบตามที่กฎหมายกำหนด แต่อย่างใดการกระทำดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเมื่อประชาชนออกมาร่วมชุมนุมตามที่มีการชักชวนจากเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ก็ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมได้ก่อความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง การโพสต์ข้อความชักชวนดังกล่าวนี้เป็นการก่อให้ประชานร่วมละเมิดกฎหมายแน่นดินผู้กล่าวหาทราบเหตุดังกล่าวจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกับพนักงานสอบสวน ปอท. เพื่อให้ผ้าเนินคดีตามกฎมายกับผู้กระทำความผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ต่อมาจากการสืบสวนทางเทคนิคและการพิสูจน์ทราบด้วบุคคลทราบว่า น.ส.ปนัสยาผู้ต้องหาในคดีนี้ และน.ส.นิรากร อ่อนขาว ที่ถูกจับกุมก่อนหน้ามีความเกี่ยวข้องกับเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวข้างต้นและพบว่าบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ“ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดการชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดยกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารประชาสัมพันธ์กิจกรรมรายงานความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของกลุ่มแกนนำ แนวร่วมกลุ่มอื่น ๆ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าดำเนินการกับแกนนำ ยังพบว่าผู้ดูแลระบบ หรือผู้ใช้บัญชีเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวยังมีพฤติการณ์ยุยงปลุกปั้นผ่านทางสื่อออนไลน์ให้แนวร่วมกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจรัฐและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและเมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นแล้วแกนนำของกลุ่มดังกล่าวก็ไม่ได้พยายามที่จะเข้าไประงับยับยั้งเหตุ แต่กลับนำภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปโจมตีและกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุพนักงานสอบสวน ปอท.จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ดำเนินคดีตามข้อหาดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 22 ก.ย. เวลาประมาณ 12.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.ติดตามจับกุมผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักย่าน ต. คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ. นนทบุรีต่อเนื่องเกี่ยวพันกันทั่วราชอาณาจักร ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องสอบพยานจำนวนอีก 10 ปาก, รอผลการตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขอฝากขังผู้ต้องหาเป็น 12วันตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.- 3 ต.ค.นี้
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ระบุด้วยว่า หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงประกอบกับเป็นคดีสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงว่าการปล่อยชั่วคราวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมาญาติยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสดขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ผู้ต้องหาประกันตัวไปโดยตีราคาประกัน 35,000 บาท.-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี