1 ต.ค. 2564 จากกรณีที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิดัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้เสนอความเห็นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2564 ว่าควรพิจารณาให้บุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไอคอสถูกกฎหมาย จะช่วยลดการขาดทุนของโรงงานยาสูบ เป็นการช่วยเกษตรผู้ปลูกใบยาสูบ จะทำให้รัฐจัดเก็บรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น โดยอ้างว่าบุหรี่ไอคอสมีผลกระทบต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่มวนนั้น
ล่าสุด นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า กฎหมายไทยห้ามการนำเข้า ห้ามขายและให้บริการบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ (e-cigarette) โดยถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ได้รับการยืนยันในทางการแพทย์แล้วว่า ทำลายสุขภาพของผู้สูบเป็นอย่างมาก กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มเยาวชน กลุ่มคนทำงานบางส่วน
จนกลายเป็นสารเสพติดตัวใหม่ที่เข้าถึงกลุ่มนักสูบหน้าใหม่มากขึ้น แต่ก็ยังพบการโฆษณา การขายบุหรี่ไฟฟ้าเกลื่อนสื่อออนไลน์และตลาดนัดทั่วไป ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประเภท heat-not-burn products เช่น บุหรี่ไอคอส เป็นสิ่งที่น่ากังวลเช่นกัน เพราะยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องนี้ว่า บุหรี่ประเภทนี้มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไปและบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งยังพบว่าบุหรี่ประเภทนี้มีทั้งสารนิโคตินจากใบยาสูบและสารเคมีที่เป็นอันตรายสูงกว่าบุหรี่ทั่วไปด้วย
“นายชัยวุฒิ ควรฟังข้อมูลความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและนักวิชาการด้านสุขภาพ และควรทำหน้าที่ช่วยแก้ไขปัญหาการโฆษณา การขายบุหรี่ไฟฟ้าทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์กับกรมควบคุมโรค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุ้มครองสุขภาพของเยาวชนและประชาชน จะเหมาะสมกว่าการเสนอความเห็นในเรื่องที่ตนเองมิได้มีหน้าที่รับผิดชอบ” นพ.หทัย กล่าว
นพ.หทัย ยังกล่าวอีกว่า บริษัทบุหรี่ข้ามชาติพยายามที่จะแทรกแซงกฎหมายและนโยบายควบคุมยาสูบของไทยมาเป็นเวลานานหลายสิบปี ผ่านนักการเมือง ข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ อยู่เสมอ รัฐบาลจึงควรเสนอให้มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อป้องกันในเรื่องนี้ เพราะประเทศไทยยังมิได้ปฏิบัติตามกรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (FCTC) มาตรา 5.3 อย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ ในการประชุมบุหรี่หรือสุขภาพเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 13 (13th Asia Pacific Conference on Tobacco or Health: APACT 2021 Bangkok) เมื่อวันที่ 3-4 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา สแตนตัน แกลนซ์ (Stanton Glanz) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและศึกษาด้านการควบคุมยาสูบ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีการพัฒนาไปมาก
โดยบางยี่ห้อเป็น liquid e-Cigarette เป็นการนำ “นิโคติน” เข้าสู่ร่างกายผ่านการทำให้เป็นไอแทนการเผาไหม้ มีการพัฒนาสูตรโดยใช้เกลือนิโคติน ซึ่งต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปที่ใช้ Freebase Nicotine หรือ นิโคตินบริสุทธิ์ ทำให้มีค่าความเป็นกรดน้อย ผู้สูบสามารถหายใจได้ง่ายขึ้น ไม่แสบคอ นี่คืออีกเหตุผลว่า ทำไมผู้ใช้ใหม่อย่างเด็กๆ ถึงติดบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วและง่ายขึ้น รวมถึงยังถูกปรุงแต่งให้มีรสชาติและกลิ่นหลากหลาย ยิ่งทำให้ผู้ใช้จะได้รับสารนิโคตินที่เข้มข้นมาก
แกลนซ์ ย้ำว่า การสูบบุหรี่หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกประเภทมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคหอบหืด รวมถึงโรคปอด และโรคมะเร็ง ที่สำคัญบุหรี่ไฟฟ้าอาจมีอันตรายกว่าบุหรี่แบบดั้งเดิม เพราะมีอานุภาคขนาดเล็กมากที่สามารถ ข้าสู่กระแสเลือดและเข้าสู่เซลล์ ซึ่งอันตรายมาก ทั้งมีโอกาสที่จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ ปัจจุบันสหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาจำกัดการจำหน่าย หรือเป็นไปได้ที่อาจมีการยกเลิกการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี