nn นายวิเชียร รักบำรุง เจ้าของโรงงานผลิตกะปิจากกุ้ง “กะปิคู่ครัว” (มารียาม) ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมืองจังหวัดกระบี่ ร้องทุกข์ถึง “แนวหน้า” ว่าได้รับความเดือดร้อนเสียหายอย่างมากกับกระแสข่าวใส่ร้ายที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ได้ดูคลิปเสียงใส่ความ “กะปิคู่ครัว” ซึ่งคลิปเสียงภาพประกอบดังกล่าว ลูกค้าผู้บริโภคและตัวแทนที่นำสินค้าไปขายส่งให้เมื่อเปิดดูปรากฏว่าเป็น “คลิปข่าว” ทีวีช่องหนึ่ง ที่นำเสนอว่าสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ได้ตรวจพบว่าโรงงานผลิต “กะปิคู่ครัว” ใช้สีย้อมผ้าผสมให้กะปิมีสีสวย และเรื่องนี้ได้สร้างความตกใจให้ทางโรงงาน รวมถึงความเสียหายกับผลิตภัณฑ์สินค้าขายดีทางภาคใต้ยี่ห้อข้างต้นอย่างมาก 

nn นายวิเชียรแจกแจงต่อว่า เหตุการณ์ที่ทางสาธารณสุขจังหวัดเข้าไปตรวจนั้น ยอมรับเป็นเรื่องจริง และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วง 6 ปีที่ผ่านมา หรือเมื่อปี 2558 สิ่งที่ตรวจพบ คือสีผสมอาหาร (ทานได้) แม้ทานได้แต่ทางสาธารณสุขอธิบายว่า “ห้ามผสม” ทางโรงงานก็ทำการแก้ไขไม่เอาผสมตั้งแต่วันที่สาธารณสุขสั่งห้าม พร้อมเรียกเก็บผลิตภัณฑ์เดิมทั้งหมด ย้ำในข้อเท็จจริงไม่ใช่สีย้อมผ้า เมื่อสาธารณสุขบอกผสมไม่ได้ ทางโรงงานก็แก้ไขเลิกผสมเรื่องทั้งหมดจบไปแล้วยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ทางจังหวัดภาคใต้ขายดีมีคู่แข่งหลายรายซึ่งเป็นธรรมดาของสินค้าไม่มีปัญหาอะไรว่ากันไปตามคุณภาพ แต่สิ่งที่เป็นข่าวหรือเป็นข่าวขึ้นมาใหม่ แน่นอนทำให้ผลิตภัณฑ์ กะปิคู่ครัว (มารียาม) เสียหาย ซึ่งทางโรงงานได้แจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว 

nn นี่คือเนื้อความร้องทุกข์และว่ากันว่าพอคลิปเสียงดังกล่าวถูกปล่อยออกไป ปรากฏมีลูกค้าประจำหลายรายข้องใจสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น บ้างก็ว่าเพื่อปกป้องตัวเอง รวมถึงการรักษายืนยันว่าผลิตภัณฑ์ “กะปิคู่ครัว” ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทางโรงงานควรดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเรียกค่าเสียหายกับแหล่งที่มาของคลิปดังกล่าว เพราะถ้าปล่อยไปปัญหานี้เกิดขึ้นมาอีก ถึงไม่เกิดกับโรงงานแห่งนี้ก็อาจจะเกิดกับโรงงานอื่นๆ ที่ผลิตภัณฑ์เขามีคุณภาพได้เช่นกัน 

nn ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากผู้บริโภคในจังหวัดกระบี่ เปรี้ยงปร้างว่าจริงๆ แล้วทางโรงงานควรกระทำสองอย่าง คือ ประการแรกต้องขอบคุญทางสาธารณสุขจังหวัดที่เคยเข้าไปตรวจสอบและสั่งห้ามสีปนเปื้อนในอาหาร (กะปิ) ทุกชนิด แม้จะทานได้ก็ห้าม เพราะสาธารณสุขเข้าใจปัญหากระทบต่อสุขภาพผู้บริโภค ที่สำคัญยังเท่ากับเป็นการการันตีชื่อเสียงผลิตภัณฑ์ด้วย ส่วนประการต่อมาสำหรับประเด็นคดีใส่ความทำให้เสียหายก็ว่าไปตามข้อเท็จจริงโดยเฉพาะสื่อก่อนนำเสนอข่าวต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน ดังนั้น หากสื่อผิดพลาดสื่อต้องรับผิดชอบ เพราะมีความรู้มากกว่าประชาชนทั่วไปในการผลิตข่าว nn

ไผ่ฎำ