วันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 09.30 น.นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขการเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยมีนายนิวัตน์ รุ่งสาครผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ทั้งนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์การเกิดภัยพิบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวให้หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ นำไปปรับใช้ในการกำหนดแผนและวางแผนในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอชัยบาดาล ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 4,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ ได้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 23 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้
จังหวัดลพบุรี แบ่งการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ 122 ตำบล 1,122 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และอ่อนตัวเป็นพายุดีเปรสชั่นพาดผ่านภาคกลาง เมื่อช่วงวันที่ 25 - 26 กันยายน 2564 ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่อำเภอต่างๆ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ทั้ง 11 อำเภอ และในบางพื้นที่เป็นเส้นทางรับน้ำและน้ำหลากจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน วัด โรงเรียน ได้รับความเสียหายและผลกระทบ ใน 11 อำเภอ 94 ตำบล 703 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ราษฎรเสียชีวิต 9 ราย พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 507,538 ไร่ บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 7,487.3 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบ 60,334 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์โดยรวมคลี่คลายแล้วใน 8 อำเภอ คงเหลืออีก 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอชัยบาดาล ที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และในบางพื้นที่เป็นที่ลุ่มและเส้นทางน้ำหลาก ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่
วันเดียวกัน พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขการเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ณ ห้องประชุมวัดพิพัฒนาราม(วัดดอนไข่เต่า) อำเภอบางปลาม้า ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ ศาลาการเปรียญ วัดพิพัฒนาราม (วัดดอนไข่เต่า) อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
จังหวัดสุพรรณบุรี แบ่งการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ 110 ตำบล 997 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และอ่อนตัวเป็นพายุดีเปรสชั่นแผ่ปกคลุมภาคกลาง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดเขตติดต่อและอำเภอต่างๆ ประกอบกับมีแม่น้ำสุพรรณบุรี(ท่าจีน)ไหลผ่านพื้นที่ และเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำหลาก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ต่างๆ จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน วัด โรงเรียน ได้รับความเสียหายและผลกระทบ ใน 10 อำเภอ 91 ตำบล 722 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบ 22,481 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์โดยรวม ในบางพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว เหลือในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่รับน้ำ ยังคงมีน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังอยู่
ขณะที่ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขการเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ณ ห้องประชุมกองบังการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,250 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมกองบังการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานีเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
จังหวัดอุทัยธานี แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ 70 ตำบล 632 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และความกดอากาศต่ำแผ่ปกคลุมภาคกลาง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดเขตติดต่อและอำเภอต่างๆ ประกอบกับเป็นพื้นที่แม่น้ำสะแกกรังไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตำบลท่าซุง อำเภอเมืองอุทัยธานี และมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านพื้นที่ บางพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำรับน้ำหลาก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ต่างๆ จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน วัด โรงเรียน ได้รับความเสียหายและผลกระทบ ใน 8 อำเภอ 68 ตำบล 558 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบ 8,905 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์ในบางพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว เหลือในบางพื้นที่ที่ติดกับคันกั้นน้ำยังคงมีน้ำท่วม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี