“ตรีนุช” ตรวจเยี่ยมโรงเรียน จ.สระแก้ว ย้ำ ศธ.-สธ.เร่งฉีดวัคซีนนักเรียนและครูทันก่อนเปิดเทอมเพื่อความปลอดภัยในสถานศึกษา
7 ต.ค.64 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนและรับฟังปัญหาการจัดการศึกษา ที่โรงเรียนบ้านวังบรูพา จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นโรงเรีนนโครงการประชารัฐ สอนระดับอนุบาล 2- ม.3 มีนักเรียน รวม 295 คน ผู้บริหาร 2 ครู 16 คน ธุรการ 1 คน
โดย น.ส.ตรีนุช กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงเรียน ว่า การมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้เหมือนได้หลักมาเยี่ยมบ้าน เพราะหลังจากตนมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็พบโจทย์ท้าทายอย่างมาก เพราะเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.ทำงานอย่างหนัก และตั้งใจผลักดันแก้ไขปัญหา เช่น การผลักดันให้ครูได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้ครูกว่า 78% ที่ได้รับวัคซีนแล้ว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหว่วงการเรียนออนไลน์ของนักเรียนอย่างมาก เพราะเรียนออนไลน์เป็นระยะเวลานาน ๆจะทำให้เด็กเกิดความเครียด ผู้ปกครองก็เครียมตามไปด้วย ดังนั้นจะทำอย่างไรให้เปิดภาคเรียนได้เร็วที่สุด โดย ศธ. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เร่งประสานจะนำวัคซีนไฟเซอร์มาฉีดให้นักเรียนได้มากที่สุด ซึ่งไฟเซอร์เป็นวัคซีนที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และต่างประเทศได้นำวัคซีนนี้ไปฉีดกับเด็กแล้ว และภายในเดือนตุลาคม จะทำการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนที่แจ้งความประสงค์ต้องการฉีดให้ครบทุกคน นอกจากนี้ ตนได้ประสานนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ดำเนินการฉีดวัคซีนครูที่ยังตกค้างควบคู่กับนักเรียนไปด้วย โดยศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) จะประสานครูที่ตกหล่นยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และมีความประสงค์จะฉีดให้มารับวัคซีนทั่วประเทศ เพราะศธ.ต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง เพื่อเปิดภาคเรียนที่ 2 รูปแบบ On Site ที่โรงเรียนได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ภายใต้ความปลอดให้ได้มากที่สุด
"จากการรับฟังปัญหาการจัดการเรียนการสอน พบว่าเด็กมีความเครียดจากการเรียนออนไลน์อย่างมาก ศธ.หารือร่วมกันว่า ไม่อยากให้นักเรียนเครียด จึงได้ข้อสรุปร่วมกันว่า การวัดและประเมินผลในช่วงเวลานี้ จะต้องยืดหยุ่นและสามารถจับต้องได้ด้วย " น.ส.ตรีนุช กล่าว
ด้านนายอัมพร กล่าวว่า ขณะนักเรียน และผู้ปกครอง ต้องการมาเรียนในโรงเรียนแล้ว ซึ่งวัคซีนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กสามารถกลับมาเรียนในโรงเรียนได้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะจัดทำคู่มือ แนวทาวการเปิดเรียนสำหรับนักเรียนระดับชั้นต่าง ๆ โดยจะมีมาตรการให้โรงเรียนได้นำไปปฏิบัติ คาดว่าจะสามารถเผยแพร่ได้ภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้อยากให้ครู และผู้ปกครองได้ฉีดวัคซีนครบทุกคนด้วย เพื่อให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย สามารถมาเรียนในโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย
"ผมมองว่าในการเปิดเรียนเดือนพฤศจิกายน นี้ โรงเรียน และครูต้องใช้เวลาในการปรับพฤติกรรมนักเรียนด้วย เพราะนักเรียนได้เรียนออนไลน์มาเป็นระยะเวลานาน ส่วนการวัดและประเมินผลนักเรียนนั้น ผมมองว่าสามารถยืดหยุ่นได้ จากการเรียนช่วงที่ผ่านมา เด็กได้รับทักษะชีวิต และทักษะอาชีพจากพ่อแม่แล้ว และในภาคเรียนที่ 2 โรงเรียนอาจจะเน้นการสอนด้านวิชาการ เพื่อให้เด็กมีทักษะวิชาการควบคู่ไปได้" นายอัมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี