วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เหยื่อโควิดใต้พุ่งแซงกทม.-คลัสเตอร์พรึ่บจุดเล็กๆกระจายสู่ครอบครัว-ชุมชน

เหยื่อโควิดใต้พุ่งแซงกทม.-คลัสเตอร์พรึ่บจุดเล็กๆกระจายสู่ครอบครัว-ชุมชน

วันศุกร์ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 14.22 น.
Tag : คลัสเตอร์ โควิดวันนี้ โควิด19 ศูนย์ข้อมูล COVID-19
  •  

ไทยติดเชื้อ 1.04 หมื่น ดับ 94 ราย ใต้น่าห่วง ยอดเสียชีวิตวันนี้พุ่งแซง กทม.-ปริมณฑล คลัสเตอร์ใหม่ยังพรึ่บทั่วประเทศ ย้ำยุทธศาสตร์เปิดประเทศ ปชช.ต้องใช้ชีวิตวิถีใหม่ กต.ชงใช้ไทยแลนด์พลัส เพิ่มความสะดวกเข้าราชอาณาจักร

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 15 ตุลาคม 2564  ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,486 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 10,277 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,410 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 867 ราย มาจากเรือนจำ 167 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 42 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,762,190 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 10,711 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,636,461 ราย อยู่ระหว่างรักษา 107,606 ราย อาการหนัก 2,897 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 684 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 94 ราย เป็นชาย 56 ราย หญิง 38 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 72 ราย มีโรคเรื้อรัง 16 ราย หญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ที่ จ.ปัตตานี พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดใน กทม. 10 ราย แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ยอดรวมผู้เสียชีวิตในพื้นที่ภาคใต้รวมกันสูงถึง 36 ราย มากกว่า กทม.และปริมณฑลรวมกัน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 18,123 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ที่มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อแบบ ATK ยืนยันตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้หายไปไหน มีการรวบรวมและเผยแพร่ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยยอดรวมการตรวจหาเชื้อแบบ ATK ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.–15 ต.ค. มีจำนวน 2,484,903 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 161,959 ราย เฉพาะวันที่ 15 ต.ค. ตรวจไป 31,781 ราย ผลเป็นบวก 2,192 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 240,383,902 ราย เสียชีวิตสะสม 4,896,169 ราย สำหรับยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ต.ค. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 1,034,549 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 63,614,352 โดส


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 15 ต.ค.ได้แก่ กทม. 1,054 ราย ยะลา 767 ราย ปัตตานี 644 ราย สงขลา 605 ราย นราธิวาส 494 ราย นครศรีธรรมราช 488 ราย ชลบุรี 434 ราย สมุทรปราการ 379 ราย ราชบุรี 299 เชียงใหม่ 233 ราย ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่ายอดติดเชื้อจังหวัดในภาคใต้มียอดสูงจากเดิม และจากข้อมูลคลัสเตอร์เล็กๆ ต่างๆ ขณะนี้เริ่มกระจายไปในครอบครัวและชุมชนเหมือนกับ กทม.และปริมณฑลก่อนหน้านี้ จึงขอให้เฝ้าระวังควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด ในส่วนคลัสเตอร์ต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ จ.เชียงใหม่ พบคลัสเตอร์ตลาด โรงงาน สถานศึกษา บ้านพักเด็กเล็ก ส่วน จ.ชลบุรีพบคลัสเตอร์แคมป์คนงานและค่ายทหาร ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์พบคลัสเตอร์แคมป์คนงาน ที่ จ.อุบลราชธานีพบคลัสเตอร์โรงพยาบาลและร้านอาหาร ที่ จ.ตรังพบคลัสเตอร์งานเลี้ยงเกษียณ ที่ จ.ขอนแก่นพบคลัสเตอร์งานศพ ที่ จ.จันทบุรี พบคลัสเตอร์ล้งผลไม้ และที่ จ.ลำพูน พบคลัสเตอร์แรงงานเก็บถั่วแระ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า มาตรการต่างๆ ที่ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบเมื่อวันที่ 14 ต.ค.จะมีผลวันที่ 16 ต.ค. และคาดว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในวันที่ 15 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ขอย้ำถึงแผนการเปิดประเทศโดยการเข้าราชอาณาจักรแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่  โดยมี 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การเปิดประเทศแบบปลอดภัย, การเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กลุ่มเปราะบาง, การเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข, การพัฒนาระบบข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารความเสี่ยง, การสร้างกลไกบริหารจัดการแบบบูรณาการโดยวางเป้าหมายไว้ 4 เป้าหมาย คือ ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19, สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันหมู่, ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ, เสริมสร้างสังคมและวัฒนธรรมให้ประชาชนกลับมาดำเนินกิจกรรมด้านสังคมและวัฒนธรรมได้

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค.วันเดียวกันนี้ มีการพูดคุยถึงแผนรองรับการเปิดประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศเสนอ เรื่องการใช้ไทยแลนด์พลัส เป็นการเปลี่ยนแปลงการใช้เอกสารสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย เดิมใช้ COE จากนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข จะพิจารณาร่วมกันที่จะใช้ ไทยแลนด์พลัส ที่สามารถเดินทางได้หากมีการตรวจพบว่าได้รับวัคซีนครบ สองเข็มแล้ว มีผลตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง โดยขนาดนี้มี 2 ประเทศที่ได้ส่งฐานข้อมูลการฉีดวัคซีนของประชากรมาแล้ว เมื่อหลังตรวจโดยระบบอิเล็คทรอนิกส์ก็จะสามารถจับคู่กันได้เลยว่าคนที่ลืมเรื่องขอเข้าประเทศไทยคนนี้ มีผลยืนยันการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทางแล้วแน่นอน สามารถกระทำได้ในทันทีก็จะทำให้ขั้นตอนรวดเร็ว มากขึ้น เดิม ใช้เวลาค่ะต้องขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทย 3-6 วัน ลดเหลือ 1-3 วัน ซึ่งจะมีรายละเอียดในเว็ปไซด์กระทรวงสาธารณสุขต่อไป และเรื่องประกันสุขภาพก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญ จำเป็นเพื่อเป็นหลักประกันสุขภาพให้กับนักเดินทาง ให้ได้รับการรักษาอย่างปลอดภัยซึ่งมีสัปดาห์หน้าจะมาชี้แจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
ที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก มีความเป็นห่วงเรื่องการจัดเลี้ยง การรวมกลุ่ม การทำกิจกรรมตามประเพณี โดยเฉพาะกำลังจะเกิดงานทอดกฐิน เทศกาลลอยกระทง จึงขอย้ำประชาชนให้ยังคงระมัดระวังตัวส่วนบุคคล การจัดงานจะต้องผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และขอให้จัดโดยมาตรการสาธารณสุขจะต้องเข้มงวด

-001

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'แพรรี่'เทศน์พระเอี่ยวสีกา สึกออกมาก็แค่ตาแก่คนหนึ่ง สีกาก็ร้ายไปเป็นเปรตแน่นอน

เชียงใหม่ พบผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย จาก'โรคไข้หูดับ' หลังกินหมูดิบ

ชำแหละ 4 ข้อ 'ทักษิณ'โชว์วิสัยทัศน์! 'หลงยุค หลงตัวเอง ขายฝัน แก้ตัว'

'ยุน ซอกยอล'อดีตปธน.เกาหลีใต้ติดคุกอีกรอบ ศาลอนุมัติหมายจับหวั่นหลักฐานถูกทำลาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved