ดีเอสไอค้นร้านขายบุหรี่เลี่ยงภาษี 4 จุดปัตตานี คำนวณค่าปรับภาษีมูลค่า 19 ล้านบาท หวังตัดวงจรขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดีเอสไอ ได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดปัตตานี โดยสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด หลังสืบสวนพบกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดกฎหมายบริเวณชายแดนและชายฝั่งทะเล ตามเลขสืบสวนที่ 118/2564 โดยเข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี ประกอบด้วย ร้านค้าเลขที่ 27/55 หมู่ 5 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี พบของกลางบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี จำนวน 133 ซอง พร้อมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน ร้านค้าเลขที่ 77/1 ถนนจะบังติกอ ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี พบของกลางบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี จำนวน 1,694 ซอง พร้อมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน ร้านค้าเลขที่ 158/90 ถนนนาเกลือ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี พบของกลางบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี จำนวน 2,164 ซอง พร้อมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน และร้าน KS STORE เลขที่ 113 ถนนสามัคคีสาย ก ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี พบของกลางบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี จำนวน 22,233 ซอง พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 1 คน
นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า ผลการตรวจค้นพบผู้กระทำความผิด 4 ราย ในพื้นที่ 4 เป้าหมาย โดยพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดของกลางบุหรี่ยี่ห้อต่างประเทศหนีภาษีคละยี่ห้อ ได้แก่ John Black , MILANO , DENVER , Marlboro , Manchester , Gold Mount , ORIS , GAMA , SENATOR , PLATINUM , FORT , AMAS , VESS , SPA , UP โดยบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษีทั้ง 4 ร้าน รวมจำนวนกว่า 100 ลัง มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 26,224 ซอง คิดคำนวณเป็นเงินค่าปรับตามกฎหมายประมาณ 19 ล้านบาท เบื้องต้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองปัตตานี
"กลุ่มขบวนการค้าบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีปีละจำนวนมาก ที่ผ่านมาศูนย์ฯชายแดนภาคใต้ ได้ตรวจค้นและจับกุมเรือและรถบรรทุกลักลอบขนของหนีภาษีจำนวนหลายครั้ง แต่ยังมีข้อมูลกลุ่มผู้ค้าเคลื่อนไหวอยู่ตลอด จึงร่วมกันกำหนดแผนการปฏิบัติต่อร้านค้าจำหน่ายรายสำคัญฝั่งอันดามัน" อธิบดีดีเอสไอ กล่าว
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ตามบัญชีท้าย ข้อ 11 และข้อ 12 ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยคณะพนักงานสืบสวนจะรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และเตรียมเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อมีคำสั่งให้ทำการสอบสวนกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี