สลดลุงวัย 57 ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ออกมาหาปลาช่วงน้ำหลากไปบริโภคและขายพบเป็นศพอยู่ในตาข่ายดักปลาของตัวเอง คาดโรคเบาหวาน ความดันกำเริบหน้ามืดพลัดตกน้ำแต่ไม่มีใครเห็นจนน้ำพัดร่างไหลไปติดตาข่ายดักปลา
วันที่ 15 ต.ค.64 ร.ต.อ.พนัส โกรดประโคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่า พบศพคนจมน้ำเสียชีวิตติดในตาข่ายดักปลา ที่คลองน้ำบ้านสี่เหลี่ยม ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จึงได้ประสานแพทย์เวรฯ รพ.เฉลิมพระเกียรติ และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุดอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพนายดำ พรมขุนจิตร อายุ 57 ปี ชาวบ้านบ้านสี่เลี่ยม ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ เสียชีวิตอยู่ในตาข่ายดักปลา หรือชาวบ้านเรียกว่า (สาบ) อยู่ในคลองน้ำด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้าน จึงได้นำร่างขึ้นมาจากน้ำ จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย จึงคาดว่าน่าจะเป็นการพลัดตกน้ำแล้วจมเสียชีวิตเอง
จากการสอบถามนางแว่น พรมขุนจิตร อายุ 46 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า วันนี้ตนกับสามีออกมาหาปลาด้วยกันตั้งแต่เช้า โดยการใช้ตาข่ายดักปลาในคลองที่เกิดเหตุเพราะช่วงนี้น้ำหลากจะมีปลาเยอะ ซึ่งช่วงเช้าก็ดักได้ปลาเยอะกว่าปกติ จึงเอาปลากลับเข้าไปไว้ที่บ้านก่อนส่วนหนึ่ง พอช่วงบ่ายออกมาหาสามีอีกที ก็ไม่เห็นสามีอยู่ที่จุดเดิมแล้ว มีแต่รองเท้าเตะถอดทิ้งไว้ ตอนแรกก็คิดว่าสามีอาจจะเดินไปหาจุดอื่นเพื่อดักปลา ก็พยายามเรียกหาแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจากสามี จึงให้เพื่อนบ้านช่วยตามหาอีกช่วย กระทั่งพบสามีจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในตาข่ายดักปลาของตัวเอง ก็ตกใจมากเพราะสามีเป็นคนไม่ดื่มเหล้าขยันทำมาหากิน ส่วนสาเหตุที่สามีจมน้ำเสียชีวิต คาดว่าน่าจะเกิดจากโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันกำเริบ แล้วอาจจะหน้ามืดพลัดตกน้ำ
ขณะที่ น.ส.สาวิตรี คงเป็นพันธ์ อายุ 42 ปี และนางยุพิน โอกระโทก อายุ 55 ปี เล่าว่า ช่วงเช้าพวกตนก็ออกมาหาปลาอยู่ใกล้ๆ กับนายดำ ผู้ตาย ก็ยังพูดคุยกันอยู่เลย แต่ช่วงเที่ยงได้กลับเข้าไปกินข้าวที่บ้าน แล้วพอตอนบ่ายออกมาอีกที ก็ไม่เห็นนายดำ แล้ว ซึ่งเมียของนายดำ ก็ไม่เห็นสามีเหมือนกันเห็นแต่รองเท้าถอดอยู่ริมคลองน้ำ ภรรยาจึงให้พวกตนช่วยตามหาด้วยเพราะตะโกนเรียกแล้วไม่มีเสียงตอบกลับ ก็พากันเดินหาหลายรอบแต่ไม่เจอ
กระทั่งประมาณบ่าย 3 ไปเห็นร่างนายดำ ติดอยู่กับตาข่ายดักปลาของตัวเอง ก็ตกใจก่อนจะให้ชาวบ้านมาช่วยนำร่างขึ้นจากน้ำ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะคิดว่าน่าจะเกิดจากโรคประจำตัวกำเริบ แล้วหน้ามืดพลัดจมน้ำเสียชีวิตเอง เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี