เปิดปท.แบบค่อยเป็นค่อยไป
‘บิ๊กตู่’ปลุกคนไทย
ร่วมใจก้าวผ่านวิกฤตโควิด
กพท.คลายล็อกสายการบิน
ขนส่งผู้โดยสารได้เต็มลำ
แห่ทัวร์สิมิลัน-พัทยาคึกคัก
ป่วยเพิ่ม10,648เสียชีวิต82
นายกฯบิ๊กตู่ โพสต์ชวนคนไทยร่วมก้าวข้ามวิกฤตโควิด เตรียมเปิดประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไป ขอทุกคนร่วมแรงร่วมใจสู้ไปด้วยกันในขณะที่ กพท. คลายล็อกรับเปิดประเทศให้สายการบินขนผู้โดยสารได้เต็มลำ เกาะสิมิลัน พังงา เนื้อหอมนักท่องเที่ยวแน่น ด้านพัทยาจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวระเบิดความมันส์ “พัทยามิวสิคเฟสติวัล 2021”ตั้งแต่สัปดาห์แรกเดือน พ.ย. ส่วนยอดติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 10,648 ราย หายกลับบ้าน 10,794 ราย เสียชีวิต 82 ราย
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก Prayut Chan-o-cha ว่า “พี่น้องประชาชนครับ ตราบใดที่โลกไม่หยุดหมุน เราคนไทยก็จะต้องไม่หยุดการพัฒนา ไม่ว่าจะเกิดปัญหา หรืออุปสรรคนานัปการเพียงใดก็ตาม วันนี้รัฐบาลขอเชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ร่วมก้าวข้ามวิกฤติโควิด มองไปข้างหน้า และเตรียมเปิดประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมี 2 ปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ คือ ความพร้อมเรื่องการจัดหาและการฉีดวัคซีนซึ่งมีแนวโน้มที่ดีมากๆ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ ศบค.กำหนด รวมทั้งเรื่องเวชภัณฑ์และระบบสาธารณสุขที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับอัตราการติดเชื้อรายใหม่และลดอัตราการสูญเสียในอนาคตได้ และอีกปัจจัยที่สำคัญ คือ ความมีวินัยและความร่วมแรงร่วมใจกันของคนไทยทั้งประเทศ ในการเอาชนะโรคระบาด เพื่อมุ่งสู่การกลับมาใช้ชีวิตและการทำมาหากินตามปกติสุข แบบ New Normal ให้ได้ในเร็ววันครับ”
ไฟเขียวเที่ยวบินขนผู้โดยสารเต็มลำ
นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท.(caat) เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามออกประกาศ กพท. เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การแพรระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 7)โดยได้ปลดล็อกช่วงเวลาในการปฏิบัติการบินของสายการบิน โดยอนุญาตให้สายการบินทำการบินได้มากขึ้น ตามประกาศของ ศบค. ที่ปรับลดเวลาเคอร์ฟิว หรือ ห้ามออกนอกเคหสถานมาอยู่ที่ระหว่าง 23.00-03.00 น. ของทุกวัน
นอกจากนี้ กพท. ยังยกเลิกการจำกัดความจุผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่ 75% อีกด้วย โดยอนุญาตให้สายการบินมีจำนวนผู้โดยสารได้ตามความจุของอากาศยานที่ใช้ในการทำการบินเที่ยวบินนั้น ๆ หรือความจุที่ 100% ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2564 เป็นต้นไป
กทม.คลายล็อค6กิจการ/กิจกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 30/2564 มีมติปรับเงื่อนไขมาตรการสำหรับกิจการ/กิจกรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 44) เพื่อเป็นการปรับปรุงและผ่อนคลายความเข้มงวดของมาตรการควบคุมโรคต่างๆ ที่ได้กำหนดขึ้นให้สอดคล้องกับภาพรวมของสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศ ที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในภูมิภาคอื่นๆของโลก โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16-31 ตุลาคม 2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ดังนี้
1.ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา สวนสาธารณะ เปิดได้ตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น.
2.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด เปิดจำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภท ตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. (เครื่องเล่นในสถานที่ดังกล่าวเปิดได้ แต่ต้องให้เขตพื้นที่อนุญาต) สำหรับร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการเวลากลางคืน ให้ปิดตั้งแต่เวลา 22.00 – 03.00 น.
3.ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ แบบไป-กลับ สามารถเปิดให้บริการได้ โดยขออนุญาตสำนักอนามัย กทม. (ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ และต้องสุ่มตรวจATK เจ้าหน้าที่ทุกสัปดาห์)
4.โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ เปิดให้บริการประชุม สัมมนา หรือจัดงานพิธีตามประเพณีได้ จนถึงเวลา 22.00 น. โดยห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้จัดเตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด จัดให้มีช่วงเวลาพักเพื่อระบายอากาศ และปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยที่กำหนด
5.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดให้บริการประชุม สัมมนา หรือจัดงานพิธีตามประเพณีได้ จนถึงเวลา 22.00 น. โดยห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้จัดเตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และยังคงปิดให้บริการส่วนที่เป็นร้านเกม ตู้เกม เครื่องเล่น สวนสนุก สวนน้ำ
6.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก ภายนอกอาคาร ให้สำนักงานเขตพื้นที่ประเมินและพิจารณาอนุญาต
ทั้งนี้ ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มบุคคลมากกว่า 50 คน
แห่เที่ยว“สิมิลัน-สุรินทร์”คึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ท่าเทียบเรือ บ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา บรรยากาศกลับมาคึกคักอีกครั้งของการเปิดเกาะสิมิลัน-สุรินทร์ วันที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เป็นวันแรกของการเปิดเกาะแต่ต้องถูกยกเลิกการเดินทางลงเกาะเนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงแต่วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใส บริษัททัวร์นำเที่ยวเช่น บริษัท เลิฟ อันดามันและว้าวอันดามัน ต่างมีนักท่องเที่ยวจองทัวร์ไปเกาะสิมิลัน-สุรินทร์กันจำนวนมาก โดยบริษัท เลิฟอันดามันวันนี้มียอดจองไปเกาะสุรินทร์ และเกาะสิมิลันรวม 237 ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนที่ท่าเรือว้าว อันดามัน ก็คึกคักเช่นกันมีนักท่องเที่ยวชาวไทยจองทริปลงเกาะสิมิลันเช่นกัน
ตื่นเต้นทั้งนักท่องเที่ยว-พนักงาน
นายณัฐพงษ์ วงศ์เสถียรชัย ผู้จัดการบริษัท เลิฟอันดามัน ทัวร์ กล่าวว่า เปิดเกาะสิมิลันวันนี้ถือว่าคึกครื้น หลังจากอัดอั้นการท่องเที่ยวมานาน หลังจากที่รัฐบาลเปิดให้เริ่มท่องเที่ยวได้วันนี้ก็มีนักท่องเที่ยวจองเข้ามาเกินความคาดหมาย เกาะสิมิลันและเกาะสุรินทร์วันนี้นักท่องเที่ยวจองสิมิลัน 2 ลำ ส่วนเกาะสุรินทร์ 3 ลำรวมทั้งหมด 237 คน 99% เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนเรื่องมาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 นักท่องเที่ยวทุกคนต้องฉีดวัคซีนครบโดส มีเอกสารแสดงการฉีดวัคซีน แต่สำหรับนักท่องเที่ยวคนใดที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็สามารถมาได้โดยต้องตรวจหาเชื้อโควิด ก่อนเดินทาง 7 วันมาแสดง พนักงานของบริษัทเราทุกคนฉีดวัคซีนครบกันทุกคนแล้ว
ด้าน นายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น ผู้จัดการ บริษัท ว้าว อันดามัน กล่าวว่า วันนี้แจ่มใส คลื่นลมสงบ บริษัทว้าว อันดามันก็ได้นำลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปยังหมู่เกาะสิมิลันทุกคนดูตื่นเต้นมาก หลังจากที่ไม่ได้ไปเที่ยวกันนาน มีการพูดคุยกัน คิดถึงอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้ง แม้แต่พนักงานของเราเองก็ตื่นเต้นที่จะได้รองรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
เตรียมจัดงานพัทยามิวสิคเฟสติวัล
เมืองพัทยา ร่วมกับ อบจ.ชลบุรี และ ททท. เตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวรับการเปิดประเทศ ระเบิดความมันส์ พัทยามิวสิคเฟสติวัล2021 ตั้งแต่สัปดาห์แรกเดือน พ.ย. เพื่อฟื้นเศรษฐกิจเมืองท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจทั่วโลกซบเซา โดยร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ สำนักงานท่องเที่ยวพัทยา ร่วมกันจัดขึ้น
โดยในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นตั้งแต่ วันที่ 5 พฤศจิกายน 64 หลังเปิดประเทศเพียง 5 วัน ไปจนถึงวันที่ 11 ธันวาคม 64 รวมทั้งสิ้น 4 สัปดาห์ ประเดิมสัปดาห์แรก วันที่ 5-6 พ.ย.64 กำหนดจัดแสดงดนตรีรวม 3 เวที ได้แก่ เวทีพัทยาเหนือ เวทีพัทยากลาง และเวทีพัทยาใต้ สัปดาห์ที่ 2 วันที่ 12-13 พ.ย.64 เป็นเวทีหาดจอมเทียน โดยวันที่ 13 พ.ย. ได้เพิ่มเวทีที่ เกาะล้าน บริเวณหาดนวล ส่วนในสัปดาห์ที่ 3 วันที่ 3-4 ธ.ค.64 จะเป็นเวที สวนสาธารณะลานโพธิ์นาเกลือ และสัปดาห์ที่ 4 สัปดาห์สุดท้าย ของกิจกรรม วันที่ 10-11 ธ.ค.64 เป็นเวทีเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช โดยตลอดการจัดกิจกรรม จะมีศิลปินชื่อดังมากมายหมุนเวียน มาให้ความบันเทิงกันมากกว่า 50 ศิลปิน
เดินหน้าฉีดวัคซีนนร.-นศ.ต่อเนื่อง
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความก้าวหน้าของการฉีดวัคซีน Pfizer ในเด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปี ตอนนี้มีที่แสดงความประสงค์ฉีดวัคซีนผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทั่วประเทศแล้วกว่า 4.07 ล้านราย จากเดิมที่ช่วงต้นมีแจ้งไว้ 3.61 ล้านคน และกระทรวงศึกษาธิการจะทำการสำรวจการฉีดวัคซีนของนักเรียนรอบสองอีกครั้งว่ายังมีนักเรียนคนไหนตกหล่นอีกหรือไม่ ข้อมูล ณ วันที่ 14 ตุลาคม มีนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 8.64 แสนราย ขณะที่ นักศึกษาและบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้รับวัคซีนกว่า 1ล้านโดสแล้ว แบ่งเป็นผู้ที่ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 6.16 แสนคน และฉีดครบ 2 เข็ม 3.84 แสนคน แยกเป็นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 7.63 แสนคน และต่างจังหวัด 2.37 แสนคน ซึ่งจากการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ในทั้งกลุ่มนักเรียนและนักศึกษายังไม่มีรายงานการเกิดภาวะกล้ามเนื้อ/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
เคาะฉีดเข็มสองในเด็กชาย20ต.ค.นี้
นางสาวรัชดา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เด็กเพศชายที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค เด็กเพศหญิงและเด็กชายอายุ 16-18 ปี สามารถรับวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ ใน 3-4 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนเข็มแรก ส่วนเด็กชายอายุ 12 ถึงต่ำกว่า 16 ปีที่ฉีดวัคซีน Pfizer เข็มแรกไปแล้วนั้น คณะอนุกรรมการวิชาการจะประชุมหาข้อสรุปเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ก่อนที่จะเริ่มมีการฉีดเข็ม 2 ตามกำหนดในวันที่ 25 ตุลาคม ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครอง/นักเรียนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมในโซเชียลมีเดียที่สร้างความวิตกกังวล ให้ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและคณะแพทย์หรือนักวิชาการของกระทรวงฯที่มีการตรวจสอบยืนยันได้ ในส่วนของเด็กนักเรียน/นักศึกษาที่ได้รับวัคซีน Pfizer ทุกคน งดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมหนักหลังจากได้รับวัคซีนเป็นเวลา 1 สัปดาห์
โพลหนุนเปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจ
นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เปิดประเทศ ฟื้นเศรษฐกิจ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,101 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12 – 15 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา ปรากฏผลดังนี้ เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการเปิดประเทศ ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.9 เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีที่เลือกตัดสินใจในจุดที่เหมาะสมควบคุมโรคไปพร้อมกับการเดินหน้าปากท้อง ในขณะที่ ร้อยละ 73.9 เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ไทย ในการจัดหาและกระจายฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างทั่วถึง ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนร้อยละ 71.8 พอใจต่อการตัดสินใจของรัฐบาลในการเปิดประเทศจากการแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ในขณะที่ ร้อยละ 71.7 เชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังจากรัฐบาล สามารถเดินหน้าเปิดประเทศใน 120 วัน และร้อยละ 69.7 เห็นด้วยกับการเปิดพื้นที่นำร่องที่ผ่านมาสู่การขยายเปิดประเทศ ฟื้นเศรษฐกิจ เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน
มีความหวังธุรกิจการค้ากลับคืนมา
เมื่อถามถึง ความคิดเห็นต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังเปิดประเทศ ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.3 ดีใจและมีความหวังที่การทำธุรกิจ การค้า กลับคืนมา ส่วนร้อยละ 82.5 ไม่สนับสนุนการชุมนุมประท้วงใช้ความรุนแรงและสร้างความแตกแยกของคนในชาติ ขณะที่ ร้อยละ 82.2 ดีใจที่รัฐบาล ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เปิดประเทศรับธุรกิจท่องเที่ยวเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ส่วนร้อยละ 80.2 เห็นความสำคัญและพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากการเปิดประเทศ ร้อยละ79.5 ระบุ เห็นด้วยที่ธุรกิจบันเทิง กึ่งผับกึ่งบาร์ร้านอาหารสามารถเปิดให้นั่งและทำธุรกิจได้อีกครั้ง ร้อยละ 79.3 ระบุพร้อมสนับสนุนนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ ธุรกิจบันเทิง และร้อยละ 71.8 ชื่นชมความสำเร็จในการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ให้รัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนทุกจังหวัด
เมื่อถามถึง ความต้องการการป้องกันวิกฤตซ้ำซ้อน ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.4 ต้องการให้รัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนในทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดน ส่วนร้อยละ 91.4 ต้องการให้ทุกหน่วยงานรัฐ เช่น ตรวจคนเข้าเมือง สาธารณสุข ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เข้มงวดขั้นสูงสุดควบคุมโรคกับต่างชาติผ่านเข้าออกชายแดน ในขณะที่ ร้อยละ 90.7 ต้องการให้ทุกคนรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมขั้นสูงสุดมากขึ้น และร้อยละ 89.2 ต้องการให้ทุกคนจดจำบทเรียนวิกฤตโควิดและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นและร่วมมือกันควบคุมกดดันทางสังคมกับผู้ไม่รับผิดชอบ
ติดเชื้อเพิ่ม10,648เสียชีวิต82
วันเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่า พบยอดผู้ติดเชื้อใหม่ 10,648 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 9,873 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 650 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 111 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 14 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,743,975 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 10,794 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกจำนวน 82 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี