ปภ.ชี้อุทกภัยกระทบหลายจว.
โคราชอ่วมซ้ำ
คาด1-2วันน้ำเพิ่มสูงอีก
พระพุทธรูปพันปีเสียหาย
กาญจน์หนักสุดรอบ10ปี
ปภ.รายงานอุทกภัยหลายจังหวัดยังกระทบ โคราชอ่วม!คาดอีก 1-2 วันน้ำเพิ่มสูงอีก พระพุทธรูปหินทรายเก่าแก่เสียหาย ส่วนกาญจนบุรี ท่วมหนักในรอบ 10 ปี ขณะที่สุพรรณฯ แม่น้ำท่าจีนล้นเข้าท่วม อ.สองพี่น้อง เดือดร้อนด้าน “บิ๊กป้อม” ฟุ้งสนทช.แก้ปัญหาน้ำได้เยอะ ปัดตอบ 2 ป.ลงพื้นที่ได้คะแนนเพิ่ม
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17-18 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 8 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว สมุทรปราการ นครปฐม และกาญจนบุรี รวม 24 อำเภอ 43 ตำบล 107 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 2,909 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด 21 อำเภอ 40 ตำบล 104 หมู่บ้าน 2,909 ครัวเรือน ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ นครปฐม และสระแก้ว
‘คมปาซุ’ส่งผลกระทบ6จังหวัด
สำหรับอิทธิพลพายุ ‘คมปาซุ’ ซึ่งอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความอากาศต่ำ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนล่าง ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 15-17 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากใน 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก รวม 12 อำเภอ 33 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,326 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด 7 อำเภอ 19 ตำบล 78 หมู่บ้าน 2,216 ครัวเรือน ได้แก่ ลพบุรี และปราจีนบุรี
พายุ‘ไลออนร็อก’น้ำยังท่วม2จว.
ขณะที่พายุ ‘ไลออนร็อก’ ตั้งแต่วันที่ 8–14 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ใน 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง เลย เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ชุมพร และระนอง รวม 20 อำเภอ 90 ตำบล 416 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,931 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด 7 อำเภอ 15 ตำบล 59 หมู่บ้าน 3,317 ครัวเรือน คือจันทบุรี และตราด
ฤทธิ์‘เตี้ยนหมู่’ทำ9จังหวัดระทม
ส่วนอิทธิพลพายุ ‘เตี้ยนหมู่’ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน-7 ตุลาคม 2564 ทำให้เกิดอุทกภัย 33 จังหวัด รวม 225 อำเภอ 1,201 ตำบล 8,218 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 333,367 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย (ลพบุรี 11 ราย เพชรบูรณ์ 2 ราย ชัยนาท 1 ราย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 24 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 9 จังหวัด รวม 40 อำเภอ 285 ตำบล 1,570 หมู่บ้าน 83,047 ครัวเรือน ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา ลพบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี
ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่ง ปภ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป
คาดอีก1-2วันโคราชน้ำเพิ่มสูงอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครราชสีมา ถนนมิตรภาพ ซอย 4 บริเวณสะพานข้ามลุ่มน้ำลำตะคอง ว่าเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ได้นำธงสีเหลือง มาติดไว้เพื่อเตือนให้ประชาชนรับทราบเรื่องการรับสถานการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังใช้รถประกาศให้บ้านพักทุกหลังคาเรือนเตรียมยกของขึ้นที่สูง เนื่องจากน้ำเอ่อล้นลำตะคอง ท่วมถนนระดับ 20 เซนติเมตร โดยเฉพาะถนนมิตรภาพ ซอย4/4 เส้นทางไปยังถนนคลองส่งน้ำ โรงเรียนสุรนารี 2 โดยคาดว่าอีก 1-2 วัน ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
พระนอนโคราชอายุ1,300ปีเสียหาย
ขณะเดียวกัน น้ำที่หลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลายหมู่บ้านและถนนทางเชื่อมหมู่บ้าน มีกระแสน้ำเชี่ยว ซึ่งพบว่าที่วัดธรรมจักรเสมาราม วัดเก่าซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ หรือพระนอนหินทราย อายุกว่า 1,300 ปี ศาสนสถานสมัยทราวดี โบราณวัตถุที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความยาว 13.3 เมตร สูง 2.8 เมตร ได้ถูกน้ำท่วมถึงฐานพระนอนดังกล่าว รวมถึงวัตถุมงคล เครื่องสักการะบูชา ระดับน้ำสูง 40-50 เซนติเมตร ซึ่งนับเป็นสถานการณ์น้ำท่วมหนักในรอบ 11 ปี
ทั้งนี้ โครงการชลประทาน จ.นครราชสีมา ได้แจ้งเตือนพื้นที่ 33 ตำบล 5 อำเภอ แนวลุ่มน้ำท้ายเขื่อนลำตะคอง ประกอบด้วย อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมือง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ให้เฝ้าระวังน้ำท่วม หลังจากมีฝนตกหนักบริเวณท้ายเขื่อน
อ่างฯห้วยกระพร้อย-วังโหราทะลัก
วันเดียวกัน ที่ จ.กาญจนบุรี จากฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้น้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน อ.หนองปรือ อ.บ่อพลอย อ.เลาขวัญ และ อ.ห้วยกระเจา โดยที่ อ.บ่อพลอย กระทบหนักที่สุดที่ ต.หลุมรัง น้ำท่วม 18 หมู่บ้าน ประมาณ 74,885 ไร่ พื้นที่การเกษตร 39,018 ไร่ โดยนอกเหนือปริมาณน้ำซึ่งเกิดจากฝนตก ยังเกิดจากน้ำที่ล้นสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำวังโหรา จ.สุพรรณบุรี และอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อย ด้วย ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 1-2 เมตร ทางกู้ภัย ได้เร่งนำเรือเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว สำหรับอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี
แม่น้ำท่าจีนทะลักอ.สองพี่น้องอ่วม
ส่วนที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่น้ำท่าจีน ได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ อ.สองพี่น้อง โดยโรงเรียนอนุบาลวัดดงตาล น้ำท่วมสูง 80 เซนติเมตร-1 เมตร รถยนต์ของครูที่จอดไว้ เสียหาย 9 คัน ขณะที่วัดดงตาล พระสงฆ์และชาวบ้านต่างต้องย้ายศพหนีน้ำไปบนศาลาการเปรียญ
นายมาโนช ตุ้มทอง รักษาการ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึง ผวจ.สุพรรณบุรี เพื่อออกประกาศเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน เฝ้าระวังน้ำท่วมสูงอย่างใกล้ชิด โดยพื้นที่ต้องเฝ้าระวังมี 8 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองหญ้าไซ อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อ.ศรีประจันต์ อ.เมือง อ.บางปลาม้า อ.อู่ทอง และ อ.สองพี่น้อง โดยปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำกระเสียว อยู่ที่ 306 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 102% ซึ่งเกินความจุแล้ว
ผู้ว่าฯกทม.ยังสั่งเฝ้าระวังต่อเนื่อง
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงสถานการณ์น้ำเหนือที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ว่าปริมาณน้ำที่กรมชลประทาน ตรวจวัดที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เฉลี่ย 2,827 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ส่วนระดับน้ำที่ปากคลองตลาด กทม.อยู่ที่ 1.8 เมตร ยังต่ำกว่าคันกั้นน้ำของ กทม.อยู่ประมาณ 1.2 เมตร จึงยังไม่รับผลกระทบ แต่ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป
‘บิ๊กป้อม’ฟุ้งสนทช.แก้ปัญหาน้ำได้
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) ว่าไม่ได้ล้มเหลว มีการพัฒนาไปเยอะ งานวิจัยก็ทำ แต่เรื่องน้ำท่วมขึ้นอยู่กับฝนที่ตกเยอะ และที่เก็บน้ำไม่เพียงพอ เราทำงานไปเยอะมากทั้งประเทศ ส่วนกำหนดการในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ที่จะลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จะไปดูพื้นที่ด้านตะวันตก จะเอาน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ ไปใช้ทางตะวันออกอย่างไร จะไปดูการผันน้ำว่าดำเนินการไปถึงไหน ยืนยันว่าสถานการณ์เขื่อนในพื้นที่ยังรองรับน้ำได้
ปัดตอบได้คะแนนเสียงเพิ่มหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงช่วงที่ผ่านมา ทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต่างลงพื้นที่หลายจังหวัด ได้คะแนนเสียงดีขึ้นหรือไม่ ทาง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนจะไปรู้ได้อย่างไร ต้องไปถามประชาชน ซึ่งประชาชนก็ให้การตอบรับอย่างดี ทุกพรรคการเมือง ต่อข้อถามว่าการลงพื้นที่แล้วมีกลุ่มต่อต้าน ทำให้เสียโอกาสหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คนเป็นหมื่นเป็นแสน แต่กับคนสิบกว่าคนคุณจะเอาอะไร เขาก็จัดตั้งมา จะไปเกรงกลัวอะไร เราก็ทำงานได้อยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี