วันที่ 19 ตุลาคม 2564 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ภาค 8,9 เรียกประชุมตำรวจระดับหัวหน้าสถานี รับฟังปัญหาการปฏิบัติงานและเร่งรัดติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ณ ห้องประชุม ภ.8 และ ภ.9 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ฯ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ งานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (ปป 1) ซึ่งมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบหลัก และงานสืบสวน (สส 2) ที่มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ วันนี้เดินทางมาเพื่อนำนโยบาย ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ ผบ.ตร. มาถ่ายทอดและกำชับให้กับตำรวจระดับหัวหน้าสถานี เพื่อทราบและนำไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
สำหรับการขับเคลื่อนงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม นั้น ตนเป็นผู้ช่วย พล.ต.อ.รอย ฯ รอง ผบ.ตร. ซึ่งการบริหารงานสายตรวจจะต้องมีทิศทางที่ชัดเจนตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และมีการประเมินผลการปฏิบัติ ตามที่ ตร. กำหนด สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยมอบแนวทางการทำงานตามหลัก 4 ประการ ประกอบด้วย (1) งานยุทธศาสตร์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (2) งานจัดทำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (3) งานวิเคราะห์สถานภาพอาชญากรรมและระดมกวาดล้างอาชญากรรม และ (4) งานประเมินผลการปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
ส่วนการขับเคลื่อนงานสืบสวน ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุชาติฯ รอง ผบ.ตร.ให้รับผิดชอบเรื่องการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาที่สำคัญในภาพรวมทั้งประเทศ และงานทะเบียนประวัติอาชญากรรม ในงานด้านสืบสวนสอบสวน กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นไม่ว่าจะเป็นระดับกองบัญชาการ กองบังคับการ และสถานีตำรวจ ควบคุม กำกับ ดูแล การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบ ที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสืบสวนก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ และจะต้องมีเกฎฑ์การวัดผลที่ชัดเจน เร่งรัดจับกุมคดีค้างเก่า ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดเป้าหมายให้จับกุม เดือนละ 5% ของคดีค้างเก่าทั้งหมด ท้องที่สถานีตำรวจจะต้องขยันและเอาใจใส่ กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตากกฎหมาย เพื่อให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์
ในด้านงานทะเบียนประวัติอาชญากรรม จะต้องจำแนกทะเบียนประวัติอาชญากร ออกจากประวัติผู้ต้องหา ในกรณีคดีที่สุดแล้ว ให้รายงานผลให้ ตร. ทราบ เพื่อลบประวัติผู้ต้องหากรณีคดีสั่งไม่ฟ้องหรือยกฟ้อง ซึ่งขณะนี้มีจำนวนกว่าสิบล้านคน จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไข ในเรื่อง “ลบประวัติ ล้างความผิด” กรณีที่สั่งไม่ฟ้องหรือยกฟ้อง หแล้วเสร็จภายในเก้าสิบวัน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวอีกว่า ในด้านการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตำรวจท่องเที่ยวจะต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบในพื้นที่ มีหน้าที่ดูแลความปลดภัยนักท่องเที่ยว และสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลทุกหน่วยจะต้องจัดเก็บข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และสนับสนุนการทำงานของฝ่ายสืบสวนสอบสวน ในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี