อุตุฯเตือนเหนือตอนบนฝนตกหนัก
ใต้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน
ปภ.เผย14จว.น้ำยังท่วมขัง
เมืองสุพรรณฯจมบาดาล
น้ำมูลเอ่อล้นท่วมชุมชน
กทม.ระวัง11ชุมชน7เขต
ปภ.เผย 14 จังหวัดยังอ่วมท่วม ส่วนอุตุฯเตือนทั่วประเทศมีฝนตกเพิ่มขึ้น ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกทม.-ปริมณฑล ฝนตกร้อยละ 70 พ่อเมืองโคราช คาด 3 วัน น้ำไหลเข้า อ.พิมาย ขณะที่ น้ำมูลเอ่อท่วมชุมชน น้ำป่าไหลท่วมพื้นที่ศรีสะเกษ“วราวุธ” รุดขึ้นฮ.บินสำรวจน้ำท่วมสุพรรณฯยังสาหัส ผู้ว่าฯกทม. เผยระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น 23-30 ตุลาคม กทม. เฝ้าระวัง 11 ชุมชนนอกคันกั้นน้ำใน 7 เขต
เมื่อวันที่ 21ตุลาคมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง(กอปภ.ก.)รายงานว่า อิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่17-19 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งใน10จังหวัดได้แก่ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว ชลบุรี สมุทรปราการ นครปฐมและกาญจนบุรี รวม43อำเภอ157ตำบล 724 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,205 ครัวเรือน
สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด รวม 30 อำเภอ 135 ตำบล 647 หมู่บ้าน 13,134 ครัวเรือน ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ นครปฐม และสระแก้ว
‘คมปาซุ’ส่งผลให้น้ำท่วมอยู่2จว.
ส่วนอิทธิพลพายุ‘คมปาซุ’ เมื่อวันที่ 15-17 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากใน6 จังหวัดได้แก่ตาก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี ปราจีนบุรีและนครนายก รวม 12 อำเภอ 33 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,326 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด 5 อำเภอ 9 ตำบล 28 หมู่บ้าน407 ครัวเรือน ดังนี้ลพบุรี และปราจีนบุรี
พายุเตี้ยนหมู่ทำน้ำท่วม6จังหวัด
ขณะที่ผลกระทบจากพายุ ‘เตี้ยนหมู่’ เมื่อวันที่ 23 กันยายน-7ตุลาคม 2564 ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 33 จังหวัด รวม 226 อำเภอ 1,206 ตำบล 8,265 หมู่บ้าน1เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 339,346 ครัวเรือนเสียชีวิต 17 ราย (ลพบุรี 11 ราย เพชรบูรณ์2ราย ชัยนาท 1 ราย และนครสวรรค์ 3 ราย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 27 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด รวม 24 อำเภอ 219 ตำบล 1,067 หมู่บ้าน 67,362 ครัวเรือน ได้แก่ มหาสารคาม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี
ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายแล้วในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่ง ปภ.ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
อุตุฯเตือนฝนตกหนัก-เสี่ยงท่วม
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่าความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบนและทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน วันเดียวกันนี้ ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ขอให้ประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
คาด3วันน้ำไหลเข้าพื้นที่อ.พิมาย
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.เมืองนครราชสีมา โดยนายวิเชียร กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ดีขึ้น ระดับน้ำจากลำตะคองลดลงต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกัน มีมวลน้ำจากลำบริบูรณ์ ไหลเข้าท่วม ต.จอหอ ทางจังหวัดได้เร่งผลักดันให้พ้นพื้นที่ในวันเดียวกันนี้ ส่วนภาพรวมน้ำเหนือลุ่มน้ำลำตะคอง ตั้งแต่ อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ และ อ.เมือง ระดับน้ำลดลง แต่ไปเพิ่มที่ อ.โนนสูง อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.พิมาย คาดว่า 3 วันนี้ มวลน้ำจะเข้าพื้นที่ อ.พิมาย
เผยน้ำท่วมโคราชกว่าหมื่นหลัง
สำหรับการป้องกันน้ำท่วมใน ต.จอหอ อ.เมือง ที่น้ำจากลำบริบูรณ์เอ่อท่วมนั้น ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ หากไม่มีฝนตกลงมา มวลน้ำก้อนนี้จะอยู่ใน ต.จอหอ เพียง 1-2 วันเท่านั้น ก่อนจะต้องจับตาที่ อ.พิมาย ซึ่งน้ำจะไปรวมกัน โดยสั่งการให้เตรียมการป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ โบราณสถานต่างๆ แล้ว อย่างไรก็ดี จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 11 อำเภอ จาก 32 อำเภอ มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมประมาณ 10,000 หลังคาเรือน
น้ำมูลล้นตลิ่งท่วมชุมชนอีกหน
ที่ จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูล เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ ว่า น้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนอีกครั้ง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านในชุมชนวังแดง เทศบาลนครอุบลราชธานี ต้องเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำ ซึ่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้อพยพหนีน้ำมาแล้วครั้งหนึ่ง พร้อมกับชาวชุมชนอื่นๆ 24 ชุมชน กว่า 349 ครอบครัว
ศรีสะเกษน้ำป่าท่วมพื้นที่3,000ไร่
ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านโปร่งสามัคคี ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย ว่าหลังจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ได้เข้าสู่ลำห้วยสำราญ ท่วมชุมชน โรงเรียนบ้านโปร่งสามัคคี และพื้นที่การเกษตร เสียหายกว่า 3,000 ไร่ ชาวบ้านต่างต้องนำกระสอบทรายมาทำแนวป้องกันน้ำท่วม ส่วนโรงเรียนดังกล่าวแนวป้องกันไม่ได้ผล น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่เสียหาย
นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภออุทุมพรพิสัย สั่งการให้ฝ่ายปกครอง เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว โดยบ้านพักที่อยู่ติดแม่น้ำ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามสถานการณ์ในลุ่มน้ำห้วยสำราญ ก่อนเข้าตัวเมืองศรีสะเกษ ที่มีบ้านเรือนประชาชนหนาแน่น โดยมีการออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่ดังกล่าวให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่งแล้ว
พะเยาฝนถล่มน้ำท่วมบ้าน-ถนน
ที่ จ.พะเยา ภายหลังฝนตกอย่างหนักและต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง นับตั้งแต่เช้าตรู่ ได้ส่งผลให้ถนนหลายสายในพื้นที่ ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ , ต.จำป่าหวาย ต.เวียง อ.เมือง และอีกหลายพื้นที่ เกิดน้ำท่วม รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนที่ต่างต้องเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง แต่บางแห่งก็ขนย้ายไม่ทันเนื่องจากฝนที่ตกหนักทำให้น้ำท่วมอย่างรวดเร็ว และสภาพอากาศท้องฟ้าก็ยังปกคลุมไปด้วยเมฆฝน
ชาวอ่างทองเร่งขนย้ายของหนีน้ำ
ขณะเดียวกัน ที่ จ.อ่างทอง ชาวบ้านในหมู่ 2 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ได้ใช้แกลลอนพลาสติกขนาด 200 ลิตร และแกลลอนขนาดใหญ่ ผูกกับจักรยานยนต์น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม เพื่อลอยน้ำ ก่อนใช้เรือพายลากออกจากหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร อย่างทุลักทุเล เพื่อนำจักรยานยนต์ไปจอดไว้ที่ถนนโผงเผง-บางบาล หลังจากน้ำท่วมนานกว่า 1 เดือนแล้ว และน้ำยังเพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง บางหลังน้ำท่วมถึงชั้น 2 จนไม่สามารถเก็บทรัพย์สินไว้ได้ ต้องขนย้ายออกมาด้านนอก
สำหรับ จ.อ่างทอง มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 5 อำเภอ 41 ตำบล 188 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 5816 ครัวเรือน โดยเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนที่ 2,779 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำที่หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง เข้าสู่ระดับวิกฤติอีกครั้ง
2หมู่บ้านวุ่นหวิดปะทะปมน้ำขัง
ที่บริเวณถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 2034 อ่างทอง-ไชโย หมู่ 3ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเอ่อท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และไหลผ่านคันกั้นน้ำข้ามทางหลวงชนบท สู่คลองชัยนาท-อยุธยา ทำให้บางจุดน้ำล้นคันคลองไหลสู่บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในหมู่ 4 ต.จระเข้ร้อง พื้นที่หมู่ 6 และหมู่ 4 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโยส่งผลให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งถนนได้ออกมาเรียกร้อง ให้เร่งระบายน้ำจนชาวบ้านสองฝ่ายมีปากเสียงกันขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่อำเภอไชโยกับเทศบาลไชโย ต้องเข้าเจรจาก่อนปัญหาบาดหมางจะขยายวงกว้างและทำความเข้าใจกับทั้งสองฝ่าย พร้อมกับนำแบริเออร์มาวางช่องเว้นช่องเพื่อชะลอน้ำให้ไหลผ่านลดน้อยลง จนเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายจึงยอมแยกย้ายกันกลับ
น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูง
ขณะที่สถานการณ์น้ำที่ไหลผ่านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูง โดยมีปริมาณกว่า 3,200 ลบ.ม./วินาที ท่วมพื้นที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท โดยที่ ต.ธรรมามูล น้ำท่วมวัดดักคะนน โรงเรียนชุมชนวัดดักคะนน และศูนย์ปฏิบัติธรรมฯ ส่วนที่ถนนหน้าวัดลัดเสนาบดี หมู่ 1 ต.เขาท่าพระ และหมู่ 7 ต.ธรรมามูล ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและชาวบ้าน ต้องเร่งเสริมกระสอบทรายเป็นคันกั้นน้ำ ระยะทางกว่า 700 เมตร
วราวุธขึ้นฮ.สำรวจน้ำที่สุพรรณฯ
วันเดียวกัน นายวราวุธศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคาราวานลงพื้นที่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยมี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ และนายสรชัด สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมคณะ โดยนายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำไหลเข้าพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จากทุกทาง ปริมาณน้ำมีมาก ซึ่งรัฐบาลมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ทางกระทรวงทรัพยากรฯ จึงร่วมกับหน่วยทหาร และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในครั้งนี้
ต่อมา นายวราวุธ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจปริมาณน้ำใน จ.สุพรรณบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลร่องมรสุมจนมีฝนตกกระจายทั่วพื้นที่ ทั้งเขตรับน้ำเหนือเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
ประกาศเขตช่วยเหลือฯฉุกเฉิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ จ.สุพรรณบุรี ได้ประกาศเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย)ทั้งหมด 10 อำเภอ 2 เทศบาล 28 ชุมชน 138 ตำบล 934 หมู่บ้าน รวม 36,457ครัวเรือน 70,728 คน ได้แก่ อ.ด่านช้าง อ.หนองหญ้าไซ อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อ.เมืองอ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง อ.ศรีประจันต์ อ.อู่ทอง และ อ.ดอนเจดีย์ ซึ่ง ผวจ.สุพรรณบุรี จะได้ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
ผู้ว่าฯกทม.เช็คน้ำเหนือวันต่อวัน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงสถานการณ์น้ำเหนือที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ว่ากรมชลประทานตรวจวัดปริมาณน้ำที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ผ่านเข้า กทม.เฉลี่ย 3,156 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเจ้าพระยา ที่ปากคลองตลาด กทม.อยู่ที่ 2. เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำของ กทม.ประมาณ 1 เมตร ยังไม่ส่งผลกระทบในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กทม.ฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่มีรายงานจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลัก
อย่างไรก็ดี ช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2564 ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 0.2-0.4 เมตร จึงขอให้ชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ใน 7 เขต ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี