ตามนโยบายของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน เนื่องจากปัจจุบันคนร้ายได้ถือโอกาสช่วงที่เกิดผลกระทบจากปัญหาในช่วงไวรัสโควิด-19 หลอกลวงนำคนเข้ามาใช้แรงงานโดยผิดกฎหมาย และยังเป็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19
ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นภัยต่อประเทศ
ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่
ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวอย่างจริงจัง จนเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สังกัด ส.ทล.3 กก.6 บก.ทล.ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเป็นคนไทยจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายจารุบุตร ประดิษฐดร อายุ 57 ปี และ น.ส.มธุรส ไชยนิคม อายุ 60 ปี โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันช่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวฯหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดนผิดกฎหมาย" และยังได้จับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวอีกจำนวน 4 คน โดยกล่าวหา
ว่า "หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย" นำส่ง พงส.สภ.หัวหิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณีดังกล่าว ได้มีการสืบสวนขยายผล รวมทั้งได้รับการอนุเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมจาก พล.ท.วัฒนะ พลจันทร์ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย (ศรภ.) จนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ดังกล่าว มีการกระทำผิดในลักษณะเป็นเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติ ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณี ดังกล่าว โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย หัวหน้าชุดปฏิบัติการสืบสวน พร้อมพวก ทำการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานในกรณีดังกล่าว จนสามารถออกหมายจับเครือข่ายผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วยผู้ต้องหาต่างชาติ จำนวน 2 ราย และผู้ต้องหาชาวไทยจำนวน 2 ราย
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ภายใต้การบูรณาการระหว่างชุดปฏิบัติการสืบสวน ศพดส.ตร.,บช.ก.,บช.น., ภ.1, ภ.2, ภ.7 และ ศรภ.ได้ทำการจับกุม ผู้ต้องหาที่ได้ถูกออกหมายจับจากกรณีดังกล่าวได้จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย
1.นางโม ชาจัน หรือ อะโม อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินที่ 113/2564 ลงวันที่ 25 ต.ค.64 ทำหน้าที่ ดูแลแรงงานชาวโรฮีนจาในระหว่างพักอยู่ในที่พักในเขตบางบัวทอง
2. นายทุนไหน่ (Mr. Tun Naing) อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา (สามีของนางโม ชาจัน) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินที่ 114/2564 ลงวันที่ 25 ต.ค.64 ทำหน้าที่ ดูแลแรงงานชาวโรฮีนจาในระหว่างพักอยู่ในที่พักในเขตบางบัวทอง
3.นายชัยนิวัฒน์ มาลาวิภูษิต อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินที่ 116/2564 ลงวันที่ 25 ต.ค.64 ทำหน้าที่ สั่งการและว่าจ้างให้มีการจัดส่งแรงงานชาวโรนจาไปส่งยังที่หมาย
4. นายทองมนต์ เพียรจำ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินที่ 115/2564 ลงวันที่ 25 ต.ค.64 ทำหน้าที่ นำพาแรงงานชาวโรนจาจากชายแดนพม่า มายังที่พักในเขตบางบัวทอง ฐานความผิด "มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป, เป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใดโดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับหลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกายจิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นโดยมิชอบ โดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบต่อบุคคลใดและเด็ก อันเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการอื่นใดที่คล้ายคลึงอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคล
นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม,ร่วมกันพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร และรู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัยซ่อนเร้น หรือ ช่วยเหลือด้วยประการใดๆเพื่อให้พ้นการจับกุม"
โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาลำดับที่ 1-3 ได้ในพื้นที่ สภ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี และจับกุมตัวผู้ต้องหาลำดับที่ 4 ได้ในพื้นที่ อ.วังน้อย จว.อยุธยา จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง พงส.ส.ภ.หัวหิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี