มิจฉาชีพแฮกเฟสบุ๊คชายวัย 58 ปีอ้างเป็นเพื่อนหลอกยืมเงินป้าวัย 63 ปี 10,000 บาทรีบโอนให้ทันที  ไดเใจขอยืมต่ออีก 12,000 บาท แต่เหยื่อเอะใจให้สามีเป็นอดีตกำนันโทรไปถามเพื่อน พอรู้ความจริงเข่าแทบทรุด รีบเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.ไชโย จังหวัดอ่างทองล่าตัวตำเนินคดี ล่าสุดพบตัวแล้ว 1 เป็นเจ้าของบัญชี แต่อ้างถูกจ้างให้เปิดปัญชี 500 บาทเท่านั้น

วันที่ 27 ต.ค.64 ที่ สภ.เกษไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง พ.ต.ต.วชิรวิทย์ จันทนา สารวัตร สอบสวน สภ.เกษไชโย ได้รับแจ้งเหตุจากนางอาภร มะกรูดทอง อายุ 63 ปีบ้านเลขที่ 50 หมู่ 1 ตำบลเทวราช อำเภอไชโยว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงใช้เฟสบุ๊คของเพื่อนมาหลอกยืมเงินไป 10,000 บาท โดยให้โอนเข้าบัญชีธนาคารออมสินของคนชื่อ "นพกร" ด้วยความเกรงใจเพื่อน ตนจึงไม่อยากถามมาก ทั้งที่เห็นชื่อบัญชี กับชื่อคนที่อ้างว่าเป็นเพื่อนตนมาขอยืมเงินเป็นคนละคนกัน แต่ก็รีบโอนให้ทันที

เพียงครู่เดียว คนที่ใช้เฟสปลอมที่อ้างว่าเป็นเพื่อนตนคงได้ใจเห็นโอนเงินให้ไว ได้เงินแล้วยังไม่พอจึงทักมาขอยืมเงินอีกคราวนี้ขอยืมเงิน 12,000 บาท ตนเอะใจจึงบอกกับสามี ที่เป็นอดีตกำนันให้โทรศัพท์ไปสอบถามนายประกอบ ปฏิยทามรงค์ อายุ 58 ปีคนที่มิจฉาชีพแฮกเฟสบุ๊คใช้ชื่อไปยืมเงินเพื่อน เมื่อรู้ความจริงถึงกับเข่าแทบทรุด เมื่อรู้ความจริงว่าโดนหลอกจึงได้เดินมากับนายประกอบ เข้าแจ้งความที่ สภ.เกษไชโย ให้ติดตามมิจฉาชีพมาดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดต่อตัวเจ้าของบัญชีที่ชื่อว่า "นพกร" ได้แล้วอ้างว่าเป็นคนเปิดรับจ้างบัญชีเท่านั้น โดยได้ค่าจ้าง 500 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญตัวมาให้ปากคำตามขั้นตอนของกฏหมาย

ส่วนนายประกอบ คนที่โดนแฮกเฟสบุ๊คเล่าให้ฟังว่า ตนโดนมิจฉาชีพแฮกเฟสบุ๊กโดยอ้างว่าเป็นตน เพื่อหลอกใช้ยืมเงินเพื่อนไปหลายคนแล้ว แต่ไม่มีใครหลงเชื่อ ล่าสุดนางอาภร พลาดท่ามาตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ จึงได้ชวนกันรีบเดินทางมาทำการแจ้งความที่โรงพักเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหกมายและขอฝากเตือนถึงทุกคน ถ้าหากจะให้ใครยืมเงินผ่านเฟสบุ๊กต้องโทรติดต่อสอบถามให้แน่ชัดเสียก่อน และหากเป็นไปได้ถ้าจะให้ยืมเงินก็ต้องพูดคุยพบเจอหน้ากันดีกว่าจะได้ไม่เสียท่ามิจฉาชีพ - 003